การเมือง
องคมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำอุทกภัยรุนแรงในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ที่กรมชลประทาน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

องคมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำอุทกภัยรุนแรงในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ที่กรมชลประทาน พร้อมแนวทางบริหารจัดการน้ำเร่งคลี่คลายความเดือดร้อนของประชาชน
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2567 ที่กรมชลประทาน โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ร่วมรับฟังด้วย
โดยนางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยารายงานการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงปลายฤดูฝนซึ่งยังคงมีฝนตกชุก ที่ผ่านมายังไมีมีมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ล่าสุดพายุไต้ฝุ่นยางิซึ่งขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามและอ่อนกำลังลงที่ลาว แม้ไม่เคลื่อนตัวมาถึงประเทศไทย แต่หย่อมความกดอากาศต่ำจากพายุที่อ่อนกำลังลงทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือตอนบนที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ส่วนทิศทางของพายุเบบินคาจะไม่เข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยายังคงเฝ้าระวังพายุหมุนเขตร้อนที่อาจก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ซึ่งหากเกิดพายุหมุนเขตร้อนที่จะเข้าสู่ประเทศไทยในครึ่งหลังของเดือนกันยายนจะมีทิศทางการเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งในเดือตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคมยังมีโอกาสที่พายุจะเคลื่อนตัวเข้ามา แต่ทิศทางการเคลื่อนตัวจะอยู่ต่ำลงไป ดังนั้นจึงจะเฝ้าระวังการก่อตัวของพายุและสภาพอากาศในฤดูฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อแจ้งเตือนล่วงหน้า ภาพรวมปริมาณฝนทั้งประเทศตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบันปริมาณฝนยังต่ำกว่าค่าปกติ 4% ฤดูฝนเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคตามปกติ แต่ฝนตกสะสมในเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ครึ่งหลังของเดือนกันยายนยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนปรากฏเอนโซ ปัจจุบันอยู่ในสภาวะปกติ (Neutral) ต่อเนื่องไปอีก 1 - 2 เดือนจากนั้นจึงจะเข้าสู่สภาวะลานีญา ฝนที่ตกขณะนี้มาจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และหย่อมความกดอากาศต่ำ
ขณะที่นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานรายงานสาเหตุของการเกิดอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ว่า เกิดจากอิทธิพลของพายุยางิซึ่งแม้อ่อนกำลังลงในประเทศลาว แต่หย่อมความกดอากาศต่ำยังทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยในจังหวัดเชียงรายนั้น วัดปริมาณฝนสะสม 3 วันระหว่างวันที่ 9 -11 กันยายน 2567 ที่สถานีวัดน้ำฝนอ้ำเภอแม่สาย 254.4 มิลลิเมตร อำเมืองวัดได้ 155.5 มิลลิเมตร อำเภอแม่จันวัดได้ 153.5 มิลลิเมตร ทำให้ลำน้ำแม่สาย แม่กก และแม่จันล้นตลิ่งส่วนที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงแม่น้ำฝางล้นตลิ่งเนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำกกสูงจึงเอ่อท้น
ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายฝนหยุดตก ปริมาณน้ำในลำน้ำแม่สาย แม่จัน และกก แนวโน้มทรงตัว พื้นที่ประสบอุทกภัย 10 ตำบล 6 อำเภอ เนื้อที่ 1,200 ไร่ ส่งผลกระทบต่อ 613 ครัวเรือน ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในเขตเทศบาลตำบลแม่อายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วและมีน้ำขังในบ้านเรือนประชาชนบางส่วน โดยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนกำลังฉีดล้างทำความสะอาด ถนน และบ้านเรือน ลำน้ำแม่ใจและแม่มาวมีแนวโน้มลดลง สามารถระบายลงสู่ลำน้ำฝางได้เร็วขึ้น ถนนสายหลักสามารถสัญจรได้ เว้นถนนซอยในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมลำน้ำยังมีน้ำท่วมขัง ความสูงประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร แต่แม่น้ำฝางช่วงปลายยังล้นตลิ่ง ซึ่งในการช่วยหลือนั้น โครงการชลประทานเชียงรายได้เร่งระบายน้ำสายเข้าสู่คลองระบายต่างๆ ลงสู่ลำน้ำน้ำมะ ลำน้ำรวก และแม่น้ำโขง พร้อมแจ้งตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงลำน้ำเดิม และได้เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือรองรับสถานการณ์ เช่นเดียวกับที่จังหวัดเชียงใหม่ที่สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รถไฮดรอลิค รถบรรทุกน้ำ และถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยามีพื้นที่ได้รับผลกระทบท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจากการระบายน้ำเกินกว่า 700 ลบ.ม./วินาทีซึ่งจะทำให้มีน้ำเอ่อท้นในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำในจังหวัดอ่างทองและพระนครศรีอยุธยา โดยวันนี้ระบายที่ 1,248 ลบ.ม./วินาทีซึ่งลดลงจากเมื่อวานซึ่งระบายที่ 1,399 ลบ.ม./วินาที โดยปรับลงให้สอดคล้องกัยปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจากตอนบนและลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ แต่ยังคงติดตามสถานการณ์ฝนที่จะเพิ่มขึ้นจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางซึ่งได้วางแผนบริหารจัดการด้วยการเร่งระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างออกสู่ทะเลเพื่อรองรับฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ ประกอบกับระหว่างวันที่ 15 – 20 กันยายน 2567 จะมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ขณะนี้ใช้สถานีสูบน้ำฝั่งตะวันออกของลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างเร่งพร่องน้ำที่ระบายจากกรุงเทพมหานครออกสู่ทะเลเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณน้ำจากฝนที่จะตกลงมาตั้งแต่วันที่ 13 – 22 กันยายนนี้
ส่วนแนวทางการบริหารจัดการน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ได้เร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชีให้ไหลลงแม่น้ำน้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วด้วยการควบคุมบานระบายของเชื่อนในแม่น้ำชีทุกแห่ง ทั้งนี้ จะต้องควบคุมไม่ให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วเป็นการป้องกันไม่ให้ตลิ่งทรุดและให้มีระดับน้ำที่แพสูบน้ำต่างๆ ของท้องถิ่นสามารถลอยน้ำอยู่ได้ ตลอดจนเฝ้าระวังและป้องกันพื้นที่น้ำท่วมชุมชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เทศบาลเมืองวารินชำราบ และอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยการวางแผนเสริมกำแพงปิดช่องว่างที่ระดับ +113.50 ม.รทก. จากความจุลำน้ำเดิม 2,300 ลบ.ม./วินาทีจะเพิ่มเป็น 3,200 ลบ.ม./วินาที โดยเพิ่มความจุลำน้ำขึ้นอีก 39% นอกจากนี้พร่องน้ำที่เขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนาให้มากที่สุด แขวนบานที่เขื่อนปากมูลเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
อย่างไรก็ตามในส่วนสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวม 52,308 ล้าน ลบ.ม. ของความจุเก็บกัก คิดเป็น 65% แต่เร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากเพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำจากฝนที่จะตกลงมาใหม่
นางนฤมล กล่าวว่า จากความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านองคมนตรีจึงได้มาติดตามสถานการณ์น้ำว่า กระทรวงเกษตรฯ มีแผนในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างไร และอยากดูการคาดการณ์ว่าจะมีความเสี่ยงเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังได้ติดตามแผนบริหารจัดการน้ำระยะยาว พร้อมให้คำแนะนำแนวทางแก่กระทรวงเกษตรฯ และกรมชลประทาน ในการวางแผนระยะสำหรับการป้องกันปัญหาอุทกภัยรวมถึงแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ยังได้รับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีมาดำเนินการทันที โดยได้มอบหมายให้กรมชลประทานดูแลในเรื่องของประตูระบายน้ำและคันกั้นน้ำให้มีความเข้มแข็ง จะได้ไม่เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น อีกทั้งกรมชลประทานได้มีการรายงานแผนบริหารจัดการน้ำในระยะยาวทั้งในภาพรวมของประเทศและการจัดทำคลองระบายน้ำเลี่ยงตัวเมืองเชียงรายต่อนายกรัฐมนตรีด้วย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆโดยประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยและราชการส่วนท้องถิ่น ในการเร่งอพยพพี่น้องประชาชนการตั้งศูนย์พักพิง รวมถึงศึกษาแนวทางในการเยียวยาทรัพย์สิน เพื่อให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลและพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐ และในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ จะเร่งอพยพสัตว์ และจัดเตรียมเสบียงอาหารสัตว์ รวมถึงเร่งสำรวจความเสียหายหลังน้ำลดเพื่อประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อเข้าช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรต่อไป
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "วิเชษฐ์" จี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือเกษตรกรอย่างจริงใจให้ปั๊มน้ำมันเปลี่ยนแจกน้ำหันมาแจกผลไม้ตามฤดูกาลที่ตกต่ำแทนแทน ก่อนจะตายกันหมดประเทศ 18 ก.ค. 2568
- "วราวุธ" กำชับ ศบปภ.ภาคกลาง พม. เตรียมความพร้อมดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ ครบทุกมิติ 18 ก.ค. 2568
- "ดร.มหานิยม" เข้าพบ "ภูมิธรรม" ขอช่วยประสานตำรวจ ปมการให้ข่าวพระภิกษุรายวัน หวั่นกระทบจิตใจชาวพุทธแรง 18 ก.ค. 2568
- "ปลอดประสพ" เตือนสติรัฐอย่าใช้กฎหมายแรงกับพระเสพเมถุน ย้ำหลักธรรมไม่ควรถูกสั่นคลอนเพราะบุคคล 18 ก.ค. 2568
- “ตั๊น จิตภัสร์“ ร่วมยินดี “สุณัฐชา” นั่งประธาน กมธ.ตำรวจ สภาฯ ตอบรับเป็น “ประธานที่ปรึกษา กมธ.” 18 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
กกต. แจงคดีฮั้ว สว. ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา กกต.ชุดใหญ่ ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะกรรมการสืบสวนฯ 20:47 น.
- ประธานรัฐสภาลงพื้นที่ยะลา เดินหน้า “ยะลาโมเดล” สู่การแก้ปัญหายั่งยืน 17:24 น.
- เคลมอีกแล้ว! เขมรเปิดศึกปลาร้า ซัดไทยใช้ตราสินค้า "ปลาฮกเสียมเรียบ" ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ 17:02 น.
- “DSD เดินหน้าพัฒนาคนพิการ เปิดอบรมทั่วไทยกว่า 70 หลักสูตร ตลอด ก.ค.–ส.ค. 68” 16:40 น.
- "ทวี" พบปะกลุ่มมวลชนพรรคประชาชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.อุบลราชธานี 16:35 น.