การเมือง
"ชูศักดิ์" แทน "นายกฯอิ๊งค์" เปิดงานวันต้านคอร์รัปชั่นสากล ยันรัฐบาลให้ความสำคัญปราบโกง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

“ชูศักดิ์” ประกาศเจตนารมณ์งานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้สุด หยุดการโกง” มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง พร้อมแสดงจุดยืนไม่ทำ ไม่ทน และไม่เฉยต่อการทุจริต
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) “FIGHT AGAINST CORRUPTION สู้ให้สุด หยุดการโกง” โดยนายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นประธานเปิดงานครั้งนี้ เพราะถือเป็นวันสำคัญในการสร้างการตระหนักรู้ถึงภัยร้ายแรงของการทุจริต และประกาศเจตนารมย์ร่วมกันเพื่อต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจัง ซึ่งปัญหาการทุจริตในประเทศไทย เป็นปัญหาเรื้อรังสั่งสมมานาน ส่งผลเสียหายทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง นำไปสู่ปัญหาการขาดความเชื่อมั่นของนานาชาติ
ทั้งนี้ จากการศึกษาขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติในปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าจุดอ่อนที่สำคัญของประเทศไทย คือการซื้อขายตำแหน่ง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง การทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกรับสินบน การใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกัน รวมถึงความไม่โปร่งใสในงบประมาณ ส่งผลให้ดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย อยู่ในระดับคงที่ 35-36 คะแนน จาก 100 คะแนน แสดงให้เห็นถึงปัญหาการทุจริต ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยประกาศว่าจะยึดมั่นในหลักนิติธรรม สร้างความโปร่งใส และความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลมีความมุ่งมั่นทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยึดประโยชน์ของประชาชนทุกภาคส่วนเป็นที่ตั้ง และผลักดันการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างต่อเนื่อง โดยแก้ปัญหาที่ระบบ และบูรณาการกับทุกภาคส่วน
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ผลักดันให้แนวทางการแก้ไขการทุจริต บรรจุเป็นแผนแม่บทในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และขับเคลื่อนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน เพื่อสร้างความโปร่งใสในการอนุมัติและการอนุญาต ลดปัญหาการทุจริตและการเรียกรับสินบน ลดระยะเวลาในการติดต่อขอรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงให้มีการเปิดเผยข้อมูลเข้าสู่ระบบดิจิทัล
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลยังเสริมสร้างให้กระบวนการยุติธรรมมีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซง สร้างความน่าเชื่อถือ และความโปร่งใสในศาลยุติธรรม รวมทั้งส่งเสริมระบบคุณธรรม ในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินคดีทุจริต ที่มีผลกระทบในวงกว้าง
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า การปราบทุจริตจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังของภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงภาคประขาชน และการสื่อสารอย่างจริงจัง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติ เกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และจะส่งผลให้การจ้างงานเติบโตได้มากขึ้น
การวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นตามบริบทพุทธสันติวิธี
ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยมีมานานและเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แม้รัฐบาลจะมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย สำหรับการแก้ไขปัญหานี้ บทเรียนจากพุทธสันติวิธี ซึ่งเน้นหลักการความเป็นธรรม ความโปร่งใส และการสร้างสังคมที่ยั่งยืน อาจเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเสริมสร้างมาตรการที่มีประสิทธิภาพ
หลักการและอุดมการณ์ของพุทธสันติวิธีในการแก้ไขการทุจริต
พุทธสันติวิธีเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสังคมผ่านการใช้หลักการสามัญธรรมและการส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยหลักการสำคัญของพุทธศาสนาที่สามารถนำมาใช้ในกระบวนการแก้ไขปัญหาการทุจริต ได้แก่:
อริยมรรค 8 (Eightfold Path) - การดำเนินชีวิตที่เป็นธรรม โดยการปฏิบัติตามหลักศีลธรรม เช่น การพูดความจริง และการหลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดศีลธรรม ซึ่งช่วยเสริมสร้างความซื่อสัตย์ในการทำงานของบุคลากรภาครัฐและเอกชน
การพัฒนาสติปัญญา (Prajna) - การใช้การวิเคราะห์และการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากปัญญาเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการดำเนินการในทุกขั้นตอน
การปฏิบัติด้วยเมตตาและกรุณา - การส่งเสริมให้ผู้มีส่วนร่วมในระบบการบริหารมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
วิธีการและวิสัยทัศน์ในการปราบปรามการทุจริต
การใช้พุทธสันติวิธีเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบที่โปร่งใส และมีการตรวจสอบได้ง่าย โดยวิธีการที่สามารถใช้ได้แก่:
การสร้างระบบตรวจสอบภายในที่เข้มแข็ง - โดยการตั้งคณะกรรมการที่มีอิสระในการตรวจสอบการใช้จ่ายและการดำเนินการต่างๆ
การอบรมและการสร้างจิตสำนึกที่ดี - การเสริมสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมแก่บุคลากรภาครัฐและประชาชน
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน - การให้ประชาชนมีบทบาทในการตรวจสอบและเผยแพร่ข้อมูลในกรณีที่พบการทุจริต
แผนงานและโครงการที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหา
การใช้แนวทางพุทธสันติวิธีควรบูรณาการในแผนงานและโครงการต่างๆ ของรัฐ เช่น:
โครงการส่งเสริมการป้องกันการทุจริตในภาครัฐ: การพัฒนาหลักสูตรการอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐเพื่อสร้างจิตสำนึกในการทำงานอย่างโปร่งใส
โครงการประชาสัมพันธ์และการศึกษา: การใช้สื่อมวลชนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการทุจริตและผลกระทบต่อสังคม
โครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีการตรวจสอบและติดตาม: การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อให้โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ง่าย
อิทธิพลต่อสังคมไทย
การนำพุทธสันติวิธีมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตสามารถเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการบริหารของประเทศ และเป็นการฟื้นฟูศีลธรรมในสังคมอย่างยั่งยืน การดำเนินการตามหลักการนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
ส่งเสริมการศึกษาหลักการพุทธสันติวิธีในโรงเรียนและสถาบันการศึกษา เพื่อปลูกฝังคุณธรรมให้แก่คนรุ่นใหม่
จัดตั้งหน่วยงานอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต เพื่อให้การดำเนินการในทุกภาคส่วนมีความโปร่งใส
สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการทุจริต เช่น ระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการติดตามข้อมูลการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์
สรุป
การแก้ไขปัญหาการทุจริตในประเทศไทยต้องการการบูรณาการที่ครอบคลุมทั้งในด้านการปฏิรูประบบการบริหาร การสร้างความโปร่งใส และการพัฒนาความตระหนักรู้ในเรื่องจริยธรรม โดยการใช้หลักการและอุดมการณ์จากพุทธสันติวิธีเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการ นอกจากนี้ ควรเสริมสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคมที่ปราศจากการทุจริตอย่างยั่งยืน.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- เครื่องบิน "ทักษิณ" ออกจากสิงคโปร์แล้ว ขอลงจอดดอนเมือง 14.30 น. 8 ก.ย. 2568
- เครื่องบิน "ทักษิณ" ออกจากดูไบถึงสิงคโปร์แล้ว จับตากลับไทยฟังคำตัดสินคดีชั้น14 8 ก.ย. 2568
- เครื่องบิน "ทักษิณ" ออกจากสิงคโปร์ ลงจอดดอนเมืองแล้ว 8 ก.ย. 2568
- "แพทองธาร" เข้าพรรคเพื่อไทย ยัน "ทักษิณ" กลับไทยแน่ 8 ก.ย. 2568
- ศาลฎีกายกคำร้อง "ชาญชัย" ห้าม "ทักษิณ" ออกนอกประเทศ คุมเข้มใช้ตำรวจ 100 นาย อ่านคำสั่งบังคับโทษ "อดีตนายกฯ" 9 ก.ย.นี้ 8 ก.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"อนุทิน" คอนเฟิร์ม! โผ ครม. เสร็จ 100% – ยันรัฐบาลชุดนี้ของประชาชน 19:33 น.
- "อนุทิน" เปิดตัวทีมเศรษฐกิจป้ายแดง เคลียร์ชัด 3 เก้าอี้หลัก คลัง-กต.-พลังงาน 16:36 น.
- "อัครแสนคีรี" ปลื้ม สภาฯ ไฟเขียวรับร่าง พ.ร.บ.อสม. ลั่นเดินหน้ายกระดับ "หมอคนแรก" ให้มีสิทธิ สวัสดิการ และศักดิ์ศรี 16:21 น.
- คาดหวังนายกฯใหม่ "อนุทิน" เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะ "โครงการคนละครึ่ง" 16:19 น.
- “อรรถกร”ลุยพัฒนาแหล่งน้ำ จ.เลย เร่งรัดโครงการฝาย-อ่างเก็บน้ำ เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำ 16:17 น.