เมื่อวันที่  12  มีนาคม 2568  นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ครั้งที่2/2568 ว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณา 5 เรื่อง ได้แก่1.เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ จำนวน 2 เรื่อง คือ เรื่องการปรับสูตรคำนวณเงินบำเหน็จบำนาญของกองทุนประกันสังคม ซึ่งคณะกรรมการผ่านการเห็นชอบในหลักการเรียบร้อยแล้ว รอทำประชาพิจารณ์และนำมาพิจารณาอีกครั้ง 2.การรับสมัครผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง นายจ้างเรื่องการเป็นตัวแทนกรรมการค่าจ้างในชุดต่อไป  และเรื่องรับรองรายงานการประชุมซึ่งที่ประชุมรับรองเรียบร้อย 3.เรื่องเพื่อทราบ เป็นการแจ้งภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทางฝ่ายเลขาได้แจ้งที่ประชุมว่า ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และ4.เรื่องพิจารณา คือ การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่กำหนด โดยบอร์ดเห็นชอบให้ทางฝ่ายเลขาไปสำรวจผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 และสุดท้าย คือ ประชุมอีกครั้งในวันที่ 8 เมษายน 2568 เวลา 13.30 น. ซึ่งเราจะดูผลจากการสำรวจมาพิจารณาทบทวนในเรื่องผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างอีกครั้ง โดยในวันนี้ที่ประชุมยังไม่ได้พิจารณาเรื่อง ค่าจ้าง 400 บาท เนื่องจากจะดูผลการสำรวจก่อน เช่น สภาพการจ้าง สภาพเศรษฐกิจ  แนวโน้มแนวทางในการเจริญเติบโต โดยทั้งหมดจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะพิจารณากันอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรต่อ โดยดูสภาพเศรษฐกิจ ภาวะการเจริญเติบโต สภาพการจ้าง รวมทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจว่ามีสาขาได้บ้างที่ขับเคลื่อนได้ 
 
นายบุญสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน ได้ทบทวน 129 สาขาอาชีพ ซึ่งได้แต่งตั้งคณะอนุเฉพาะกิจเพื่อไปทบทวนและนำมาเสนออีกครั้ง และทบทวน 13 สาขาอาชีพ เช่น คนขับรถบรรทุก คนขับรถทัวร์ คนขับปั้นจั่น ทั้งนี้ ฝากถึงทุกท่านว่าต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน ภายใต้การครองชีพที่เป็นไปได้และเพียงพอ นายจ้างอยู่ได้ ลูกจ้างอยู่ได้ อยากฝากให้ทุกฝ่ายกรุณาเข้าใจ และกระทรวงแรงงานและคณะกรรมการค่าจ้าง เข้าใจทุกฝ่าย 
 
“ขอกราบเรียนว่าไม่มีความกดดัน ทำงานภายใต้กฎกติกา และความเป็นจริงของสังคมที่เกิดขึ้น ที่สำคัญกระทรวงแรงงาน พี่น้องครอบครัวแรงงาน ข้าราชการ ลูกจ้าง ทุกท่านเป็นหนึ่งเดียวกันในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงให้ก้าวเดินไปข้างหน้า ผมทำเพื่อพี่น้องประชาชน มีเป้าหมายคือทำอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนายจ้าง ลูกจ้าง ผมขอกราบขอบพระคุณทุกข้อแนะนำ ข้อท้วงติง และข้อเสนอแนะต่างๆ ผมยินดีและพร้อมน้อมรับเสมอที่จะนำไปปรับปรุงในการบริหารจัดการองค์กรให้ดีขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับองค์กรต่อไป ”นายบุญสงค์ กล่าว