เมื่อวันที่  14  มีนาคม 2568  ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งนำไปสู่การที่ สว. บางส่วนยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อถอดถอน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ โดยนายทักษิณระบุว่า "เราอาจสรุปกันเร็วไปหน่อย การที่ใครไปยื่นเรื่องแล้วมีการรับพิจารณา ไม่ได้หมายความว่าผู้ถูกร้องจะถูกหรือผิดทันที กระบวนการนี้เริ่มจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เชิญดีเอสไอเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนเรื่อง สว. เมื่อดีเอสไอได้รับมอบหมายและมีผู้แจ้งความเข้ามามากจนเกิดหลักฐานจำนวนมาก แต่ กกต. กลับไม่รับเรื่องไปดำเนินการต่อ ดีเอสไอจึงต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเมื่อกระบวนการเป็นแบบนี้ ก็ต้องปล่อยให้ดำเนินไปตามขั้นตอน ใครจะทำอะไรได้บ้างก็ว่ากันไป"

เมื่อถูกถามถึงข้อสงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการพยายามกำจัด สว. สายสีน้ำเงินหรือไม่ นายทักษิณปฏิเสธทันทีว่า "ไม่เกี่ยวเลย" พร้อมชี้แจงเพิ่มเติมถึงการพบปะกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ว่า "ผมยอมรับว่าได้คุยกันจริง ผมบอกเขาว่าเมื่อกระบวนการเริ่มต้นไปแล้ว มันต้องเดินหน้าตามขั้นตอน ไม่มีใครสามารถบิดเบือนหรือหยุดยั้งได้"

ต่อคำถามที่ว่า การพบปะดังกล่าวที่บ้านจันทร์ส่องหล้าทำให้คนมองว่าสถานการณ์ดูผ่อนคลายลง นายทักษิณกล่าวว่า "เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล การพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ ผมในฐานะผู้มีประสบการณ์ในพรรคการเมือง มีคนแวะมาขอคำปรึกษา ผมก็ให้คำแนะนำไปตามปกติ แต่ผมไม่มีอำนาจสั่งการอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ให้คำปรึกษาในฐานะที่เคยทำงานด้วยกันมา เขาเคยเป็นลูกพรรคของผม มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรซับซ้อน"

เมื่อถูกถามย้ำว่า ผู้ที่มาปรึกษารับฟังคำแนะนำของเขาดีหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า "ผมให้คำปรึกษาไปตามประสบการณ์ ส่วนเขาจะเชื่อหรือทำตามได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา หน้าที่ของคนเก่าอย่างผมคือแนะนำเท่านั้น" และเมื่อถูกถามถึงความมั่นคงของรัฐบาล นายทักษิณยืนยันว่า "ผมไม่เห็นว่ามีอะไรน่าเป็นห่วง รัฐบาลยังแน่นแฟ้นดี"