วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:22 น.

การเมือง

"แพทองธาร" ปัดดีลลับหวังให้บิดากลับเข้าประเทศไทย   ยันปมชั้น14รพ.ตำรวจยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯเลย  

วันอังคาร ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568, 17.17 น.

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม  2568   นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นตอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ครั้งแรกวันที่ 2ของการประชุมสภาผู้แทนราฎร ปมชั้น14รพ.ตำรวจ ขณะที่บิดาคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพักรักษาตัวระหว่างอยู่ในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์ว่า ในฐานะเป็นบุตรสาวของตั้งแต่บิดากลับเข้าประเทศไทย เข้าไปที่รพ.ตำรวจชั้น14 ตอนนั้นยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงไม่อยากให้มีการอภิปรายเหมือนกับว่า เป็นนายกฯแล้วมีอำนาจสั่งข้าราชการ เพราะเป็นแค่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีอำนาจใดๆ เลย

ในเรื่องขอความถูกต้องและกฎระเบียบถึงจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม ทุกคนก็มีหน้าที่รักษากฎระเบียบ การอภิปรายอะไรแบบนี้ก็ต้องเห็นค่าผู้รักษากฎหมาย การพูดว่าแบบนี้เหมือนเป็นการไปด้อยค่าข้าราชการไปในตัว เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าไม่ว่าลูกคนไหนก็ตาม ที่เห็นความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นกับคุณพ่อ ผ่านมาเกือบ20ปี ไม่มีใครอยากให้เกิด ทุกคนก็ทราบดีถึงความยากลำบากในเรื่องของความอยุติธรรม

ดร.ทักษิณก็คือคนหนึ่งที่เผชิญกับความไม่ยุติธรรมติดระดับท็อป ถูกยึดอำนาจทางการเมือง อายัดทรัพย์สิน ลอบสังหาร หลายครั้ง ตอนนั้นอายุ18-19ปี เมื่อทราบว่าบิดาจะถูกลอบสังหารก็ไม่ใช่สิ่งดี เป็นเหตุการณ์เจ็บปวดในครอบครัวที่ต้องถูกพลัดพรากจากกัน แต่ก็ทำให้รักกันมากขึ้นเพราะเข้าใจและเห็นใจกันและกัน

ดังนั้นยืนยันว่า ไม่ได้มีการดีลกับปีศาจเป็นความตั้งใจของนายทักษิณที่อยากกลับเมืองไทยใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว 

โว "สีจิ้นผิง" ชมแก้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

นางสาวแพทองธาร ชี้แจงเพิ่มว่า  การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์  รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง โดยมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน เมียนมาร์ และกัมพูชา ได้รับคำชมจากประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน สำหรับการตัดสินใจที่เด็ดขาดและรวดเร็ว เช่น การตัดน้ำมัน สัญญาณ และอินเทอร์เน็ต ผลลัพธ์ที่ชัดเจน คือ การลดลงของอาชญากรรมออนไลน์ถึง 20% และคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงถึง 67%

นโยบาย Digital Wallet ถือเป็น "เรือธง" ของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี การแจกเงินสดใน 2 รอบแรกเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการใช้งานระบบ Digital Wallet แบบเต็มรูปแบบในรอบที่ 3 เป้าหมายระยะยาวคือการยกระดับสังคมไทยให้เป็นสังคมดิจิทัล

สรรพากรแจงนายกอิ๊งค์ออกตั๋ว P/N ซื้อขายหุ้น 4.4 พันล้านไม่ถือว่าเลี่ยงภาษี
 
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภาเรื่อง ภาษีการรับให้ จากที่น.ส.แพทองธาร รับโอนหุ้นจากญาติพี่น้องในรูปแบบสัญญาซื้อขาย ตั๋ว P/N มูลค่ารวมกว่า 4.4 พันล้านบาทนั้น ว่า ในข้อเท็จจริงการทำธุรกรรมโดยออกตั๋ว P/N จะเปรียบเสมือนสัญญาเงินกู้

ขณะที่กรณีการซื้อขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์นั้น ผู้ขายมีหน้าที่เสียภาษี ซึ่งการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใช้เกณฑ์เงินสด หมายถึง ถ้าผู้ซื้อได้มีการออกตั๋ว P/N เพื่อเป็นสัญญาว่าจะชำระค่าหุ้นเต็มจำนวน การเสียภาษีจะเกิดขึ้น เมื่อมีการชำระตั๋ว P/N ด้วยเงินสด ซึ่งตามที่น.ส.แพทองธาร ได้ระบุว่า ในปี 2569 จะมีการชำระเงินกัน ผู้ขายหุ้นก็จะต้องชำระภาษี โดยถือเป็นเงินได้ของปี 2569 ซึ่งจะต้องยื่นแบบฯ ในปี 2570 ในประเภทเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน (Capital Gains) ผู้ขายหุ้นให้แก่นายกฯ มีเงินได้ประเภทนี้ ก็ยื่นแบบฯ และชำระภาษีตามขั้นตอนปกติ

ส่วนเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนั้นประมวลกฎหมายแพ่งฯ ระบุว่า จะกำหนดหรือไม่กำหนดก็ได้ หากมีการกำหนด จะต้องระบุไว้ที่หน้าตั๋ว P/N อย่างชัดเจน
 

หน้าแรก » การเมือง