วันพฤหัสบดี ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 00:31 น.

การเมือง

สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) สถาปนาครบรอบ 25 ปี พร้อมจัดสัมมนา 24 - 25 เมษายนนี้ ย้ำยึดมั่นความเป็นอิสระ-เป็นกลาง–เป็นธรรม

วันพฤหัสบดี ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2568, 18.22 น.

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ จัดงานทำบุญครบรอบ 25 ปี วันสถาปนาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมย้ำจุดยืน “ยึดมั่นความเป็นอิสระ เป็นกลาง และเป็นธรรม” สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน 

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันที่ 12 เมษายน 2568 เป็นวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินครบรอบ 25 ปี ซึ่งวันนี้ได้จัดให้มีพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคลของสำนักงาน โดยเริ่มในเวลา 07.00 น. ประธาน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้บริหารสำนักงาน ฯ ได้สักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ และสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งประดิษฐาน ณ ชั้น 9 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จากนั้นเป็นงานพิธีสงฆ์ โดยได้นมัสการเชิญพระพรหมวัชราจารย์ (พูนศักดิ์ วรภทฺทโก) เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นประธานพิธีสงฆ์
​       
นายสมศักดิ์  กล่าวย้ำถึงบทบาทหน้าที่ของ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ว่าเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีหน้าที่และอำนาจที่สำคัญ คือ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชนอันเนื่องมาจากการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน ใน 3 กรณี คือ
​1) กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐ  ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน หรือเป็นภาระแก่ประชาชนโดยไม่จำเป็น หรือเกินสมควรแก่เหตุ
​2) การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
​​3) การที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญ
           
โดยจากการดำเนินงานกว่า 25 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน มุ่งมั่นทำงานแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชนด้วยความเป็นอิสระ เป็นกลาง และเป็นธรรม ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2543 จนถึงปัจจุบัน (เดือนมีนาคม 2568) ได้ปฏิบัติหน้าที่แก้ไขปัญหาประชาชนแล้วเสร็จรวม 61,725 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 95.53 จากทั้งหมด 64,612 เรื่อง เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ 2,887 เรื่อง โดยประเด็นที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1.การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับการทำสำนวนการสอบสวน 2.การปฏิบัติหน้าที่หรือการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ 3. การร้องเรียนการบริหารงานการให้บริการของหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนรายกรณีที่เป็นความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมที่ส่งผลกระทบในวงกว้างหลากหลายกรณี ทั้งในด้านการแก้ไขกฎหมาย
กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมและคุ้มครองสิทธิของประชาชน อาทิ การแก้ไขปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ยกเลิกและแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีกำรจัดเก็บภาษี คู่สมรสแยกยื่นภาษีได้โดยให้สิทธิในการเลือกยื่นชำระภาษีรวมกันหรือแยกจากคู่สมรสได้, การแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมเพราะเหตุแห่งความแตกต่างเรื่องเพศ ที่ให้สิทธิภรรยาฟ้องเรียกค่าทดแทนได้เฉพาะจาก"หญิงอื่น"เท่านั้น โดยแก้ไขให้สามารถฟ้องทุกเพศได้อย่างเท่าเทียม, การแก้ไขปัญหากรณีไม่ขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 50 ปี, โครงการเพิ่มทักษะอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจากจบการศึกษา ภาคบังคับ และการแก้ไขปัญหาระบบส่งต่อผู้ป่วยในโครงการหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังกำหนดจัดงานสัมมนาวิชาการเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ระหว่างวันที่ 24 – 25 เมษายน 2568 เวลา 08.00 – 16.30 น. ณ ห้องวายุภักษ์ 3 – 4  ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์แจ้งวัฒนะ โดยในวันที่ 24 เมษายน 2568 เป็นการเปิดการสัมมนาและการบรรยาย หัวข้อ “25 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน : ก้าวต่อไปในการเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม” โดย นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน จากนั้นเป็นเวทีแสดงข้อคิดเห็นและเสนอแนะเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และอำนาจ ของผู้ตรวจการแผ่นดิน จากผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ  ศาสตราจารย์ ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน และภาควิชานิติศึกษาทางสังคมประวัติศาสตร์และปรัชญาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ศาสตราจารย์ ดร. ศุภสวัสดิ์ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ศาสตราจารย์ ดร. อุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ ดร. ปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
            
สำหรับในวันที่ 25 เมษายน 2568 มีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ธรรมาภิบาลกับการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน” และการเสวนา เรื่อง “ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง : การแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” จากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภาครัฐและภาคประชาสังคม และช่วงบ่าย เป็นเวทีสัมมนานาชาติ ในหัวข้อ “Fostering Fairness in Society : The Ombudsman’s Role in Achieving SDG16” ซึ่งในงานสัมมนาทั้ง 2 วันนี้ จัดให้มีบริการปรึกษาข้อกฎหมายและรับเรื่องร้องเรียน (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) เพื่อบริการแก่ประชาชนทั่วไปตลอดงานด้วย  

​ “ก้าวต่อไปของผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังคงยึดมั่นการทำหน้าที่ในฐานะองค์กรหลักที่เป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมจากการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยยึดมั่น “ความเป็นอิสระ-เป็นกลาง–เป็นธรรม” โปร่งใส ตรวจสอบได้  ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเป็นองค์กร ที่ให้ข้อเสนอแนะโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป” นายสมศักดิ์ กล่าว
 

หน้าแรก » การเมือง