อดีตนายกฯ "ทักษิณ"  ส่งคำอวยพรวันปีใหม่ไทย หวังเห็นคนไทยรักกัน สามัคคีรับมือภัยรอบด้าน พร้อมหนุนรัฐบาลใหม่เดินหน้าพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ชี้ประเทศต้องปรับตัวท่ามกลางสงครามการค้า แนะรวมพลังอาเซียนเจรจาสหรัฐฯ หวังไทยลดภาษีนำเข้าสินค้า  มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม แม้เผชิญแรงต้านกฎหมายสถานบันเทิง ย้ำ "การเมืองคือการเมือง" พร้อมหนุนคนรุ่นใหม่บริหารประเทศอย่างสร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่สวนสาธารณะรถไฟ จังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรเนื่องในวันสงกรานต์ หรือ “ปี๋ใหม่เมือง” ของชาวเหนือ โดยขอให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขถ้วนหน้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุ พร้อมเน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากภายนอกที่เพิ่มมากขึ้น

“อยากให้ปีใหม่ปีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของความรักและความสามัคคี คนไทยต้องช่วยกัน ประเทศถึงจะแข็งแรง” นายทักษิณกล่าว

เมื่อถูกถามว่าจะเปิดบ้านให้ประชาชนเข้ารดน้ำดำหัวหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ไม่อยากให้ใครรู้สึกเกรงใจหรือเป็นภาระกัน ขอให้ส่งคำอวยพรในใจก็เพียงพอ

แนะอาเซียนรวมพลังเจรจาการค้า มั่นใจแก้ปัญหาภาษีกับสหรัฐฯ ได้

ในประเด็นเศรษฐกิจ นายทักษิณแสดงความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้า และเน้นว่า ประเทศไทยต้องปรับตัวและเข้มแข็งจากภายใน โดยต้องอาศัยความสามัคคีและมองไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ พร้อมหนุนรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความตั้งใจพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายทักษิณเสนอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนรวมพลังกันต่อรองกับมหาอำนาจ โดยเฉพาะในประเด็นการกีดกันทางการค้า เช่น กรณีภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งไทยอาจใช้กลไกเจรจาเพื่อลดอุปสรรค โดยมีการพูดคุยกับบุคคลใกล้ชิดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์

กรณีกาสิโน ย้ำเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่ ไม่หวั่นแรงต้าน

นายทักษิณยังกล่าวถึงกรณีการชะลอร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร ที่มีบางฝ่ายกังวลว่าเป็นการเปิดทางให้กาสิโน โดยย้ำว่ากาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของโครงการที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างรายได้และการจ้างงาน พร้อมระบุว่า การต่อต้านโดยอ้างคำว่า “กาสิโน” เพียงอย่างเดียวถือเป็นการบิดเบือน

แม้พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคและสมาชิกวุฒิสภาบางรายจะไม่เห็นด้วย แต่นายทักษิณมั่นใจว่า รัฐบาลมีเสียงพอ และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนก่อนเดินหน้า

ในประเด็นความสัมพันธ์กับพรรคภูมิใจไทย ที่มีท่าทีลังเลต่อกฎหมายดังกล่าว นายทักษิณยืนยันว่า พรรคยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และมั่นใจว่าทั้งรัฐบาลจะอยู่ครบเทอม พร้อมกล่าวว่า “การเมืองก็คือการเมือง” และสามารถบริหารความขัดแย้งได้

หนุนคนรุ่นใหม่-นายกฯ แพทองธาร เดินหน้าประเทศด้วยพลังบวก

นายทักษิณยังกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีแพทองธารว่า แม้จะมีความเหนื่อยล้าแต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ตรงไปตรงมา และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อผลักดันประเทศไปข้างหน้า

รับ "มิน ออง หล่าย" เปิดเจรจา ปัดเข้าข้าง
 
นายทักษิณ เปิดเผยถึงกรณีได้มีโอกาสพูดคุยกับ พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาในห้วงการประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า พูดคุยกัน เพราะอยากเห็นความสันติสุขเกิดขึ้นในเมียนมา และตนก็ได้บอกกับทุกประเทศมหาอำนาจว่าประเทศไทยอยากเห็นเมียนมายุติความขัดแย้ง หากไม่มีการพูดคุยกัน ก็ไม่สามารถเปิดหนทางในการเจรจาได้ จึงได้อธิบายไปว่า เราจำเป็นต้องมีการพูดคุย เพื่อให้เกิดความสันติสุขได้แต่เราไม่ได้บอกว่า เมื่อมีการพูดคุยแล้ว เราจะไปเข้าข้างใคร แต่จำเป็นต้องเปิดเวทีให้เขามีการพูดคุยกัน ซึ่งประเทศไทยพร้อมที่จะเปิดเวทีให้

เมื่อถามว่า ท่าทีของพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย รับฟังหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ยอมรับฟังมาก ซึ่งก็จะมีการพูดคุยกันอีกหลายรอบ

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงวันเลือกตั้งของเมียนมาหรือไม่นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ยัง เพราะกลุ่มประเทศอาเซียน อยากให้รัฐบาลเมียนมา ยอมถอยออกมาในระดับหนึ่ง เพื่อได้พูดคุยกับชนกลุ่มน้อย หรือปล่อยตัวผู้ต้องหาทางการเมืองบ้าง จึงจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันได้บ่อย