วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:20 น.

การเมือง

นายกฯเรียก "ชัชชาติ-ปลัดกทม." แจงปมไม่ปล่อยหน่วยงานอื่นเก็บหลักฐานตึกสตง.ถล่ม ส่งผลทำงานยาก-ล่าช้า

วันศุกร์ ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568, 13.37 น.

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร หารือบนตึกไทยคู่ฟ้า ถึงความคืบหน้าเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม

มีรายงานข่าวว่า จากเหตุการณ์ตึกถล่มดังกล่าว กทม.ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ กลับไม่ยอมให้หน่วยงานใดเข้าไปเก็บหลักฐาน โดยเฉพาะกองพิสูจน์หลักฐานไม่สามารถเข้าไปเก็บหลักฐานได้อย่างอิสระ จะต้องมีการขออนุญาต กทม.ก่อนทุกครั้ง ทำให้การเก็บหลักฐานเป็นไปอย่างล่าช้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานได้ยาก ภายหลังคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายกฯจึงได้เรียกนายชัชชาติและ พญ.วันทนีย์เข้าชี้แจงในเรื่องดังกล่าว

"ชัชชาติ" แจงกันจนท.แค่ช่วงแรกเหตุเร่งค้นผู้รอดชีวิต  

นายชัชชาติ   ได้ให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียกมาสอบถามว่าขาดเหลือและต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมอะไรหรือไม่บริเวณพื้นที่ตึกสตง.ถล่ม ตนจึงได้ตอบกลับไปว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี หน่วยงานราชการทุกหน่วยงาน รวมถึงภาคเอกชน และทหารก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงไม่ได้มีข้อติดขัดอะไร ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครก็พร้อมให้ความร่วมมือเกี่ยวกับการเก็บหลักฐานต่างๆ วันนี้จึงมารายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบ เพราะท่านเป็นห่วงและคอยติดตามอยู่ตลอด

ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับความร่วมมือจาก กทม. ในการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ นายชัชชาติ ยืนยันว่าไม่มีอะไร กทม. ให้ความร่วมมืออยู่ตลอด แต่อาจจะมีเพียงอาทิตย์แรกที่ต้องแข่งกับเวลา เพราะคิดว่ายังมีคนที่มีชีวิตรอดอยู่ด้านใน จึงอาจจะติดขัดเรื่องการสื่อสารไปบ้างช่วงต้น แต่ตอนนี้เรียบร้อยหมดแล้ว โดยมีหน่วยงานหลักคือ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้ดำเนินการสอบสวน รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งก็มีการประสานงานที่ดี และมีเจ้าหน้าที่คอยประจำอยู่ ถ้าต้องการหลักฐานอะไร เราก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง

ส่วนจะใช้เวลานานในการขอหลักฐานหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่นาน เพราะมีเจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการอยู่หน้างานตลอด และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ แต่หากไปดูหน้างานสภาพตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าชิ้นไหนเป็นชิ้นไหน ฉะนั้นหากต้องการหลักฐานแนะนำให้ไปนั่งดูอยู่ที่ไซต์งานเลน โดยอาจจะดูภาพจากโดรนและดูว่าชิ้นไหนต้องการ ก็ให้แจ้งทันที ซึ่งจะดีกว่า เพราะกระบวนการในการรื้อซากหาผู้ติดค้างอยู่เป็นกระบวนการต่อเนื่อง บางทีอาจจะมีชิ้นส่วนที่ต้องการโผล่ขึ้นมา เจ้าหน้าที่จะได้หยิบและแยกออกมาให้

สำหรับจุดที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะพนังปล่องลิฟต์ขณะนี้พบแล้วหรือไม่นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า เมื่อคืนนี้เจอแล้ว ซึ่งเป็นจุดที่เราหามานาน คือ ST1-ST2 จุดที่เป็นปล่องซ้ายกับปล่องขวา ที่เรามั่นใจ เพราะมีป้ายบอกชั้น 18 อยู่ เมื่อคืนจึงพบผู่เสียชีวิตหลายร่าง ฝั่งซ้ายน่าจะ 3 ร่าง ส่วนฝั่งขวาประมาณ 4-5 ร่าง ฉะนั้นขอให้รอยืนยันจากฝ่ายพิสูจน์หลักฐานอีกทีหนึ่ง เพราะจะเห็นว่ากลุ่มใหญ่อยู่ที่จุดนี้ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นจุดที่เป็นทางใช้หนี้ลงจึงต้องโฟกัสในตรงนี้ให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามตัวสภาพปล่องลิฟต์ที่เจอไม่คงสภาพและเป็นคอนกรีตที่พังหมดแล้ว แต่ที่ทราบเพราะเห็นราวจับบันไดกับขั้นบันได รวมถึงตำแหน่งที่ตั้ง

ส่วนทางดีเอสไอได้ประสานเก็บข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้วหรือยัง นายชัชชาติ กล่าวว่า ดีเอสไอไม่ได้ดูเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของสัญญา ซึ่งตัวหลักฐานจะเป็นเรื่องของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่เข้ามาดูอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่า ในฐานะที่มีความรู้ด้านวิศวกรมองว่าวัสดุต่างๆ อาทิ เหล็ก ปูน เสื่อมสภาพและได้มาตรฐานตาม มอก. หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ดูยาก เพราะโครงสร้างพังหมดแล้ว จึงไม่ทราบว่าชิ้นส่วนมาจากตรงไหน แต่อยากให้เก็บข้อมูลไว้ก่อนเผื่อใช้ในอนาคต

ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีบอกให้กันกรมโยธาธิการและผังเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เข้าในพื้นที่อาคารสตง.ถล่ม ว่า ต้องแล้วแต่รายชื่อ เพราะทุกคนที่เข้าไปในไซต์ไม่สามารถเข้าไปได้อย่างอิสระอยู่แล้ว แต่หากจะไม่ให้ใครเข้า สามารถแจ้งมาได้ ไม่มีปัญหา พร้อมย้ำว่า คนที่เข้ามาในพื้นที่ก็เป็นคนที่เกี่ยวข้องทั้งนั้น กรมโยธาธิการและผังเมืองจะเข้ามาเฉพาะในส่วนที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน เพราะหน่วนงานไม่ได้มีส่วนในการรื้อถอน

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯกทม. ยังกล่าวทิ้งท้าย โดยแสดงความมั่นใจว่าสิ้นเดือนนี้จะก้าวหน้าไปได้ด้วยดี เพราะทุกคนก็พยายามท้าทายตัวเองตลอดว่าจะทำให้ทุกคนกลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่มีหลายมิติที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเช้าที่เจอร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ก็ต้องหยุดการทำงานจากหนักไปประมาณ 5 ชั่วโมง จึงเชื่อว่าปลายเดือนน่าจะก้าวหน้าไปอย่างมาก

ผู้ช่วยผบ.ตร. แจงยังไม่ชัดออกหมายจับกี่คนปมตึกสตง.ถล่ม ตั้งกรอบ 7 วัน  

พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จะมีจำนวนเท่าไหร่ว่า ยังไม่ทราบว่าจะออกหมายจับได้จำนวนเท่าไหร่ ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ขอเวลาอีกสักนิดหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกรอบเวลาที่จะออกหมายจับหรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า เท่าที่คุยกันกรอบปัจจุบันไม่เกิน 7 วัน แต่ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน

เมื่อถามว่า ในส่วนของหมายจับจะออกเฉพาะคนออกแบบหรือเจ้าหน้าที่ สตง. ด้วย พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนถ้าเกี่ยวข้อง มีการพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายมาตราใด อย่างไร ทุกคนที่กระทำผิดจะต้องดำเนินคดีหมด

เมื่อถามว่า ในส่วนของ สตง.ที่เป็นคนอนุมัติแบบและการใช้งบประมาณ ถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะมีการเอาผิด สตง. หรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า ตนเข้าใจ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดการกระทำผิดกฎหมายมาตราใดบ้าง ใครเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน จึงจะตอบได้ ตอนนี้เริ่มต้นมาระยะหนึ่งแล้ว ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนได้ เพราะต้องให้ชัดเจนมากกว่านี้ ซึ่งการออกหมายจับจะต้องไปเสนอต่อศาล

เมื่อถามว่า จำนวนผู้ที่ถูกออกหมายจับจะเยอะหรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะกำลังสอบผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร ได้มีการไปตรวจสอบหรือไม่อย่างไร บริษัทรับเหมาก่อสร้างทำถูกแบบหรือไม่ การสร้างต้องมีวิศวกร สถาปนิก เข้าไปดูหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดเยอะมาก ต้องใช้เวลาเยอะ
 

หน้าแรก » การเมือง