วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:54 น.

การเมือง

กกต.แจ้งการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี

วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568, 15.14 น.

ด้วยผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาล ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00 - 17.00 นาฬิกา นั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดังนี้

1. ตรวจสอบรายชื่อ และลำดับที่จากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ประกาศไว้ ณ หน้าที่เลือกตั้ง หรือจากหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน (ส.ถ. / ผ.ถ. 1/6) หรือ Application Smart Vote หรือ Application ทางรัฐ หรือทางเว็บไซต์ https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/

2. ยื่นหลักฐานที่ใช้แสดงตนในการลงคะแนนเลือกตั้ง ได้แก่
        2.1 บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรประชาชนที่หมดอายุก็ใช้ได้) 
        2.2 บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร
ที่ยังไม่หมดอายุ เช่น
        - บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
        - ใบขับขี่
        - หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

        2.3 หลักฐานภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานของรัฐ ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แอปพลิเคชัน ThaID (บัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์) แอปพลิเคชัน DLT QR LICENCE (ใบอนุญาตขับขี่อิเล็กทรอนิกส์) และแอปพลิเคชันบัตรคนพิการ (บัตรประจำตัวคนพิการอิเล็กทรอนิกส์) โดยให้ยื่นต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) พร้อมลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลานิ้วหัวแม่มือในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

3. รับบัตรเลือกตั้ง ลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือลงที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง โดยรับบัตรเลือกตั้ง ดังนี้ 
        3.1 รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่ บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและบัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรี 
        3.2 รับบัตรเลือกตั้ง 1 ใบ ถ้าเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลประเภทเดียว
โดยบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลจะมีสีบัตรเลือกตั้งเป็น “สีเขียว” ขณะที่บัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรี
จะมีสีบัตรเลือกตั้งเป็น “สีเหลืองทอง”

4. เข้าคูหาลงคะแนน ทำเครื่องหมายกากบาท X ลงในช่องทำเครื่องหมาย
        4.1 บัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เลือกผู้สมัครได้ 1 คน
        4.2 บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล เลือกผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลได้ไม่เกิน 6 คน
        4.3 หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท X ในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด

5. พับบัตรเลือกตั้ง แล้วหย่อนใส่ลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ในการลงคะแนนเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือผู้ใดกระทำการอันผิดกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ดังต่อไปนี้

    1. ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งพยายามออกเสียงลงคะแนนหรือออกเสียงลงคะแนนผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
    2. ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ได้รับจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อการออกเสียงลงคะแนน    ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
    3. ห้ามมิให้ผู้ใดนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง เว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่และอำนาจ    ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี
    4. ห้ามมิให้ผู้ใดจงใจทำเครื่องหมายโดยวิธีใดไว้ที่บัตรเลือกตั้งนอกจากเครื่องหมายที่ลงคะแนน    ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี

    5. ในระหว่างการออกเสียงลงคะแนน ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งเพื่อให้เห็นเครื่องหมายลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง    ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    6. ห้ามมิให้ผู้ใดนำบัตรเลือกตั้งใส่ในหีบบัตรเลือกตั้ง โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือกระทำการใดในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อแสดงว่ามีผู้มาแสดงตนเพื่อออกเสียงลงคะแนนโดยผิดไปจากความจริง หรือกระทำการใดอันเป็นเหตุให้มีบัตรเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจากความจริง    ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
    7. ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งที่ออกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนได้ลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด    ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    8. ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรืองดเว้นไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครผู้ใด ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ทั้งนี้ ถ้าผู้นั้นได้แจ้งถึงการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนนั้นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมายก่อนถูกจับกุม ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษและไม่ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
    9. ผู้ใดจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งที่ตนได้รับมอบจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ชำรุดหรือเสียหาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และมิให้ถือว่าเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
    10. ผู้ใดจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหายหรือให้เป็นบัตรเสีย โดยมีเจตนาเพื่อให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสีย เพื่อให้เป็นบัตรเลือกตั้งที่ใช้ได้ หรือทำหรือใช้บัตรปลอมเพื่อใช้ในการออกเสียงลงคะแนน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี

    สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือสอบถามได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือบริการสายด่วน 1444

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง