วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 20:27 น.

การเมือง

เปิดอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปม 3 คนไทย นอมินี "ไชน่าเรลเวย์ฯ" สร้าง "ตึกสตง." ถล่ม

วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568, 17.21 น.

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัวนายชวนหลิง จาง อายุ 42 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาคดีเป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจซึ่งต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการหรือต้องได้รับอนุญาตก่อน และเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 37 และมาตรา 41 มายื่นคำร้องฝากขังผัดแรก คำร้องฝากขัง สรุปว่า สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์การก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่พังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

จากการสอบสวน พบว่า บริษัทที่ทำการก่อสร้างอาคารดังกล่าวคือกิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือไอทีดี และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ในนาม ITD-CREC โดยบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท จำนวน 1 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท มีสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยร้อยละ 51 และสัญชาติจีนร้อยละ 49 มีจำนวนผู้ถือหุ้นจำนวน 4 รายได้แก่

1.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอจิเนียริ่ง คัมปะนี สัญชาติจีนจำนวน 490,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 49 มูลค่า 49 ล้านบาท

2.นายโสภณ มีชัย จำนวน 407,997 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40.7997 มูลค่า 40,799,700 บาท และปรากฏว่าถือหุ้นในนิติบุคคลอื่นอีก 4 บริษัท

3.นายประจวบ ศิริเขตร จำนวน 102,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.20 มูลค่า 10,200,000 บาท และปรากฏว่าถือหุ้นในนิติบุคคลอื่นอีก 7 บริษัท

4.นายมานัส ศรีอนันท์ จำนวน 3 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 0.003 มูลค่า 300 บาท แล้วปรากฏว่าถือหุ้นในนิติบุคคลอื่นอีก 10 บริษัท

บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีนายชวนหลิง จาง สัญชาติจีน และนายโสภณ มีชัย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคล

เมื่อสืบสวนขยายผลกรรมการที่มีสัญชาติไทยทั้ง 3 คน พบว่า นายโสภณ มีชัย อายุ 66 ปี ประวัติเคยทำงานที่ บริษัทอุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย จำกัด และได้ลาออก เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557 และไม่ปรากฏประวัติการทำงานที่บริษัทใดอีก

ส่วนนายประจวบ ศิริเขตร อายุ 53 ปี และนายมานัส ศรีอนันท์ อายุ 62 ปี มีประวัติการทำงานที่บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด โดยนายประจวบได้ลาออกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2553 ส่วนนายมานัส ลาออกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558

บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด ตั้งอยู่ที่เลขที่ 493 ซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทอื่นอีก 8 บริษัท โดยทั้ง 8 บริษัท คือ บริษัท ยูไนเต็ด สตร์ กรุ๊ปจำกัด , บริษัท วิล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัทสันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด , บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชันแนล จำกัด , บริษัทสแตร์ ลาเบล อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท โมเยนเน่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท สยามไบโอเมลิคอน ไซเอนซ์ จำกัด มีกรรมการสัญชาติไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เป็นกรรมการ

จากการสอบสวนพบว่านายโสภณ , นายประจวบ และนายมานัส ทั้ง 3 คนเป็นลูกจ้างของบริษัทที่คนจีนเป็นเจ้าของ โดยที่ทั้ง 3 คนเป็นเพียงคนงานยกสินค้าและขับรถ ไม่เชื่อว่าบุคคลทั้ง 3 เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการใด เนื่องจากมีอาชีพรับจ้างและมีรายได้น้อย

พนักงานสอบสวนดีเอสไอ พยายามติดตามตัวกรรมการสัญชาติไทยทั้ง 3 คน เพื่อมาสอบสวนกรณีอาคารตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างได้ถล่มลงมา โดยศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหาหลังเกิดเหตุตึกถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยหลังเกิดเหตุ ไม่สามารถติดต่อนายโสภณ , นายประจวบ และนายมานัสได้

ส่วนกรณี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีนายชวนหลิง จาง ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ได้ทำธุรกิจต้องห้ามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 บัญชี 3 ข้อ 10

ด้วยเหตุนี้การที่ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มี นายโสภณ , นายประจวบและนายมานัส ลูกจ้างชาวไทย 3 คนเข้ามาจดทะเบียนอำพรางเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 51 เพื่อให้บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย โดยการเข้าประมูลงานก่อสร้างอาคารตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ด้วยวิธีการประกวดราคาผ่านวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) และได้ทำการก่อสร้างอาคารดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 จนกระทั่งอาคารได้ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568

จากพฤติกรรมข้างต้นการกระทำของนายชวนหลิง จาง ผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน เป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจซึ่งต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการหรือต้องได้รับอนุญาตก่อนและเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 37 และมาตรา 41

ต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 18.50 น. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันจับกุมตัวนายชวนหลิน จาง ได้ที่โรงแรมย่านถนนรัชดาภิเษก ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอจึงควบคุมตัวมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสอบสวนแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 20 ปาก รอผลการตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินและอยู่ระหว่างรอพยานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงขอศาลฝากขังผู้ต้องหานี้มีกำหนด 12 วันตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน - 2 พฤษภาคม นี้ 

ในชั้นจับกุม และชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

โดยคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ประกอบกับมีหนังสือจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ในราชอาณาจักรไทย ยืนยันผู้ต้องหาเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีน พนักงานสอบสวนดีเอสไอจึงไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาทนายความของนายชวนหลิง จาง ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

หน้าแรก » การเมือง