เลื่อนไม่มีกำหนดบินไปถก"ทรัปม์"!  สหรัฐฯยังไม่ได้เรียกทีมไทยแลนด์คุย  เผยเก็บภาษีสูงลิ่วโซลาร์นำเข้าจากกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ไทย  ทางด้าน "ไพศาล" โพสต์แนะไทยปรับกลยุทธ์คุยสหรัฐฯ ปมถูกรีดภาษี หวั่นโดนจีนตอบโต้

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568  มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าขณะนี้ ทีมไทยแลนด์ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะ หัวหน้าคณะเจรจาฯ เลื่อนการเดินทาง ไปหารือกับทางรัฐบาลสหรัฐฯที่มีกำหนดเดิมในวันที่ 23 เมษายน 2568 ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่มีรายงานว่า การเจรจาได้ถูกเลื่อนออกไป และทางสหรัฐฯก็ยังไม่ได้มีการยืนยันวัน และเวลาในการนั่งโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ

มีรายงานว่า นายพิชัยได้ยกเลิกใบลา ครม.แล้ว จะเดินทางมาประชุม ครม.ในวันที่ 22 เมษายน 2568 ตามเดิม ซึ่งจากเดิมที่จะเดินทางไปสหรัฐฯตั้งแต่ วันที่ 17 เมษายน 2568 เพื่อรอการหารือและเจรจาการค้ากับสหรัฐ

ในการเดินทางไปสหรัฐครั้งนี้ ที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ได้เดินทางไปล่วงหน้าก่อนแล้วซึ่งเป็นการเดินทางไปโรดโชว์ และหารือกับภาคส่วนต่างๆ โดยส่วนหนึ่งจะมีการรวบรวมข้อมูลด้านนักลงทุน เพื่อใช้ประกอบการเจรจาด้วย

อย่างไรก็ตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ที่คาดว่า จะมีการหารือถึงความพร้อมในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หลังจากมีการเลื่อนการเจรจาออกไป ที่จากเดิมนายพิชัย   มีกำหนดเดินทางไปสหรัฐฯ ในวันที่ 23 เม.ย.68

สหรัฐเก็บภาษีสูงลิ่ว โซลาร์นำเข้าจากกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ไทย
 
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าใหม่ต่อผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์จาก 4 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และไทย โดยกัมพูชาสูงถึง 3,521% นับเป็นภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดและการตอบโต้การอุดหนุน เพื่อชดเชยมูลค่าของการอุดหนุนและการกำหนดราคาสินค้าที่ไม่เป็นธรรมตามที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐคำนวณไว้

"ไพศาล" โพสต์แนะไทยปรับกลยุทธ์คุยสหรัฐฯ ปมถูกรีดภาษี หวั่นโดนจีนตอบโต้
 
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า เกือบ...ฉิบหายแล้วไง คณะผู้แทนไทยที่จะไปเจรจาเรื่องขึ้นภาษีกับสหรัฐฯ ที่เตรียมการเจรจา 5 ข้อ โดยหนึ่งในนั้น คือการกีดกันไม่ให้สินค้าจากประเทศอื่น ซึ่งรวมถึงจีนส่งผ่านไทยไปยังสหรัฐฯ ซึ่งกระทบต่อผลประโยชน์ของจีนโดยเฉพาะ โชคดีที่คณะยังไม่ทันไปเจรจา สหรัฐฯ ก็ได้เลื่อนการบังคับการขึ้นภาษีไป 90 วัน จึงยังพอมีเวลาหายใจ ในเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้เตือนประเทศต่าง ๆ ว่า ประเทศใดรวมหัวกับสหรัฐฯ กีดกันการค้ากับจีน ทำให้จีนเสียหาย จีนจะตอบโต้อย่างถึงที่สุด นับว่าแจ็กพอตพอดี ดังนั้น คณะผู้แทนไทยจึงควรปรับกลยุทธ์ใหม่ซึ่งควรฟังคำเตือนของญี่ปุ่น ว่าในการไปเจรจานั้น จะไปเจรจาอะไรกัน เพราะที่ญี่ปุ่นไปเจรจามาแล้วก็พบว่า สหรัฐฯ เองก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และถึงตกลงไปแล้วสหรัฐฯ ก็ยกเลิกเปลี่ยนแปลงอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งแบบนี้ไม่รู้ว่าจะเจรจากันไปทำไม

ดังนั้น คณะผู้แทนไทย จึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่แล้ว เบื้องต้นต้องขอเลื่อนเวลาการไปเจรจาออกไปอีก 90 วัน และร่วมกับประเทศอาเซียนว่าจะรวมตัวกันเจรจาอย่างไร ที่เตรียมเจรจา 5 ข้อนั้น โหลยโท่ย และบ้องตื้นที่สุด อายเขาเปล่า ๆ  และนอกจากหน้าแตกแล้ว กลับมายังจะหัวแตกอีกด้วย