หลังเกิดปัญหาชาวต่างชาติใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าทำผิดในไทย นายกรัฐมนตรีแพทองธารมีคำสั่งให้ 3 กระทรวงหลัก เร่งศึกษาผลกระทบและปรับปรุงมาตรการ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ 

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568  นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22 เมษายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในการประชุมให้ศึกษาถึงความเหมาะสมในปรับมาตรการยกเว้นวีซ่า(วีซ่าฟรี) จากการที่รัฐบาลมีมาตรการในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในการให้วีซ่าฟรี กับบางประเทศ เป็นจำนวน 60 วัน และ 90 วันนั้น ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มใช้สิทธิดังกล่าวในการทำผิดกฎหมาย เช่น การอยู่เกินเวลา และการเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งกวดขันและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำผิด รวมทั้งศึกษาและรวบรวมผลกระทบของมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะความเหมาะสมของระยะเวลาในการอยู่ในประเทศ เพื่อปรับเปลี่ยนมาตรการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหลัก

ทั้งนี้ที่ผ่านมานายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลปรับลดวันพำนักในไทยสูงสุดของมาตรการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยว 93 ประเทศ ให้เหลือ 30 วันก็เพียงพอแล้ว เพราะปัญหาในตอนนี้คือการดูแลด้านความมั่นคง ตามไม่ทันการเติบโตของนักท่องเที่ยวจากมาตรการหนุนเรื่องยกเว้นวีซ่า

สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ต้องตรวจสอบว่าเป็นนักท่องเที่ยวจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้เกิดปัญหาหลายกรณีกระทบต่อความมั่นคง กฎหมายไทยต้องศักดิ์สิทธิ์ การบังคับใช้กฎหมายต้องตรงไปตรงมา โดยชาวต่างชาติบางส่วนมองว่าประเทศไทยนั้นง่าย ขอแค่มีเงิน ทำอะไรก็ได้ ซึ่งถือเป็นคำพูดที่รุนแรงมาก มันทำให้ประเทศไทยไม่สามารถก้าวสู่อีกระดับได้ก็เพราะปัญหาเหล่านี้ เมื่อเกิดปัญหามากขนาดนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงควรเข้ามาตรวจสอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ความปลอดภัยแก่ประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นแก่ทั้งคนในประเทศและชาวต่างชาติที่ต้องการมาเที่ยวจริงๆ