เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2568 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมยางตามพระราชบัญญัติควบคุมยางพารา ซึ่งจัดขึ้นในรอบ 7 ปี หลังจากมีการประชุมครั้งล่าสุดไปเมื่อปี 2561 จึงเรียกหารือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และผู้แทนเกษตรกร เพื่อเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ 

ทั้งนี้นางนฤมล กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานถึงสถานการณ์ราคายางที่ตกต่ำ จากปัจจัยผลกระทบการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีสหรัฐ  และได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกยาง ว่ามีเอกชนฉวยโอกาสกดราคา วันนี้คณะกรรมการควบคุมยาง จึงได้เห็นชอบประกาศเขตควบคุมยาง ในพื้นที่ 5 จังหวัด อาทิ แม่สอดจ.ตาก สังขละบุรีจ. กาญจนบุรี และ จ. ระนอง เพื่อเป็นการต่อสู้และกำจัดผู้ค้ายางเถื่อน 

โดยมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัตงานเข้าไปกำกับดูแลในเขตควบคุมยาง และยังได้เห็นชอบประกาศ กำหนดมาตรฐานยางเพิ่มเติมในประเภทของยาง ให้สามารถส่งออกได้มากขึ้น เพื่อผลประโยชน์จะตกมาถึงเกษตรกรถูกรับซื้อยางในราคาที่เป็นธรรม หลังจากนี้คณะทำงานจะทำเรื่องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบและลงนามในคำสั่ง เพื่อประกาศใช้ตามมติของคณะกรรมการควบคุมอย่างต่อไป

ด้านนายสุขทัศน์ ต่างวิริยะกุล รักษาการ ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยบอกว่าการออกประกาศของคณะกรรมการควบคุมยาง จะส่งผลดีในอุตสาหกรรมยางทั้งระบบ โดยเฉพาะการจัดการยางเถื่อนที่จะถูกส่งออก รวมถึงเจ้าหน้าที่กองการยางจะออกแบบฟอร์มให้ผู้ส่งออก ต้องรายงานราคาการซื้อ/ขายล่วงหน้า 3 เดือน เพื่อทำให้เห็นราคายางในตลาด ก็จะส่งผลดีต่อเกษตรกรที่จะสามารถขายยางได้ในราคาที่โปร่งใสและเป็นธรรม

 ขณะที่นายอดิศักดิ์ กองวารี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเจ้าของโรงงานผลิตภัณฑ์ยาง หนึ่งในคณะกรรมการควมคุมยาง  ยอมรับว่า อุตสาหกรรมยางพึ่งพาการส่งมากมากถึง 80% ตนจึงได้มีข้อเสนอในที่ประชุม เพื่อแก้ปัญหาราคายางอย่างเป็นระบบ คือให้เร่งอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราในประเทศให้มากขึ้น และกำหนดให้เป็นแบรนด์ขิงตัวเอง รวมถึงกระจายตลาดใหม่ๆ เพื่อกำหนดดีมานในตลาดโลก 

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหารารายาง หลังจากนี้จะมีการกำหนดให้มีการประชุมเพิ่มเติม โดยการยางแห่งประเทศไทยและกรมวิชาการเกษตร จะเป็นเจ้าภาพนัดหารือร่วมกันทั้ง 3 ฝ่ายไตรภาคี ภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องของข้อมูล แนวทางตลาด และราคาที่เหมาะสม ก่อนที่จะนัดประชุมคณะกรรมการควบคุมยางตามพรบ. ควบคุมยางพารา ในครั้งถัดไป คาดว่าหลังจากนี้จะต้องหารือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น