เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2568  นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ... กล่าวถึง ความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมาธิการว่า วันนี้คณะกรรมาธิการได้มีการประชุมครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นการรับรองรายงานและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจัดว่าเป็นการพิจารณาที่รวดเร็วโดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 เดือน และได้รับความร่วมมือที่ดีในการพิจารณาจากกรรมาธิการจากทุกฝ่าย ทั้งนี้กฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งกลับเข้าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระ 2-3 ภายหลังการเปิดสมัยประชุมในเดือนกรกฎาคมต่อไป

นายชนินทร์  กล่าวว่า การขับเคลื่อน พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ฉบับบนี้ยังจะต้องผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน รวมถึงการออกกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง และเจรจากับภาคเอกชนให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการและคิดค่าโดยสารให้เป็นระบบ ‘ค่าโดยสารร่วม’ ตามแนวทางของรัฐบาล แต่ทั้งนี้รัฐบาล โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะสามารถเริ่มดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า ‘20 บาทตลอดสาย’ ให้ได้ก่อน ภายในช่วงเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งถึงแม้จะยังไม่สามารถให้ใช้บัตรโดยสารใบเดียวเดินทางข้ามทุกสายได้ เพราะกฎหมายตั๋วร่วมยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่จะสามารถมีกลไกลงทะเบียนเพื่อเชื่อมต่อฐานข้อมูลก่อน เพื่อให้ผู้โดยสารคนไทยที่ลงทะเบียนไว้ทุกคน ไม่ว่าจะเดินทางเปลี่ยนขบวนกี่สาย ใช้บัตรโดยสารกี่ใบก็ตาม จะต้องจ่ายค่าโดยสารเพียง 20 บาทต่อ 1 รอบการเดินทางเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เกิดการบูรณาการการเดินทางทั้ง 8 สายของรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น และแก้ปัญหาต่อเนื่องได้อีกหลายส่วน ทั้งเรื่องค่าครองชีพ ปัญหาจราจร ปัญหามลพิษ และการกระจายตัวของเมือง เป็นต้น

“รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีความมุ่งหวังอย่างมากที่จะให้รถไฟฟ้าเป็นขนส่งสาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างแท้จริง การดำเนินนโยบาย 20 บาทตลอดสาย จะช่วยให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ถูกลง แบ่งเบาภาระค่าครองชีพ และเสริมโอกาสให้สามารถนำเงินที่เหลือไปใช้จ่ายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเรื่องอื่นๆได้อีก” นายชนินทร์กล่าว