วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:10 น.

การเมือง

กอ.รมน.ภาค 4 ประชุมด่วน สั่งยกระดับความปลอดภัยชายแดนใต้

วันพฤหัสบดี ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568, 16.30 น.

แม่ทัพภาคที่ 4 นำประชุมหน่วยมั่นคงและฝ่ายปกครอง วางแผนรับมือเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ ยืนยันใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มุ่งสร้างสันติสุข พร้อมดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งพระ-ครู-ผู้นำศาสนา-ประชาชน  ศอ.บต พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบอย่างเท่าเทียม 

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า (วาระพิเศษ) เพื่อทบทวนและยกระดับมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

การประชุมครั้งนี้มีหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วมพร้อมหน้า อาทิ พล.ต.ต.วราห์ เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.9, พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต., นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รักษาราชการแทน ผวจ.ยะลา และส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมบูรณาการแนวทางป้องกันและลดเหตุรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง

พล.ท.ไพศาล เผยว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการบิดเบือนข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายยังคงทำงานใกล้ชิดกับประชาชนในทุกมิติ ทั้งการรักษาความปลอดภัยเชิงรุก การควบคุมพื้นที่เป้าหมาย และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่าทุกมาตรการอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“ฝ่ายความมั่นคงขอประณามการกระทำที่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธ มุสลิม ครู หรือพระสงฆ์ ถือเป็นอาชญากรรมที่ต้องถูกดำเนินคดี เรากำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากประชาชนในพื้นที่เพื่อจับกุมตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

พล.ต.ต.วราห์ กล่าวเสริมว่า กองกำลังตำรวจชายแดนใต้ได้ปรับแผนปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้น ทั้งการตั้งด่านตรวจ Pop-Up จุดตรวจลอย และเพิ่มความเข้มในพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น พระสงฆ์ ครู และผู้นำศาสนา พร้อมเผยว่าในหลายคดีมีพยานหลักฐานชัดเจนจาก DNA และกล้องวงจรปิด ขณะนี้อยู่ระหว่างเข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวาระพิเศษครั้งนี้จัดขึ้นจากความจำเป็นเร่งด่วนหลังเกิดเหตุรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป้าหมายเป็นกลุ่มประชาชนอ่อนแอ ทั้งพระ ครู และประชาชนทั่วไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องปรับแผนและยกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น เพื่อปิดช่องว่างไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ พร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบยังคงยึดหลักการบูรณาการจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยไม่ละเลยต่อหลักสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย เพื่อเป้าหมายสุดท้ายคือ “สันติสุขที่ยั่งยืน” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

 ศอ.บต พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบอย่างเท่าเทียม

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีเหตุลอบวางระเบิดกำแพงด้านหลังสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ทำให้เกิดความเสียหายทั้งด้านทรัพย์สินและด้านร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ทั้งไทยพุทธและมุสลิม ด้วยความห่วงใยของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการพิเศษให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดูแลเยียวยาพี่น้องประชาชนทุกคน ผู้นำศาสนา เด็กๆ อย่างเต็มที่ และสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขโดยเร็ว โดย เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่เยียวยา ศอ.บต. รุดเข้าเยี่ยมเยียนผู้ได้รับกระทบอย่างรวดเร็ว

นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ รองโฆษกศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้/ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง กล่าวว่า ภารกิจหลักของ ศอ.บต. คือการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ดังกล่าวด้วยความห่วงใยของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการพิเศษ ให้ดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน ผู้นำศาสนา เด็กๆ อย่างเต็มที่ และสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขโดยเร็ว

กรณีเหตุลอบวางระเบิดกำแพงด้านหลังสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ในส่วนของกระบวนการเยียวยาด้านทรัพย์สิน (การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ) ศอ.บต. มีระเบียบ กฎกติกาที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้กำลังดำเนินการมีการรับรองทั้ง 3 ฝ่าย เหลือเพียงกระบวนการรับรองทางการแพทย์เท่านั้น ส่วนการเยียวยาในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ศอ.บต. จะดำเนินการต่อไป

ในส่วนของเหตุลอบยิง นายอับดุลรอนิง ลาเตะ ในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ทาง ศอ.บต. อยู่ระหว่างการรอพิจารณากระบวนการรับรองจาก 3 ฝ่าย เมื่อทราบความชัดเจน ศอ.บต. จะดำเนินการเยียวยาต่อไป

ทั้งนี้ นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ รองโฆษกศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้/ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่า ศอ.บต. จะดูแลในเรื่องของการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับการรับรองจากทั้ง 3 ฝ่าย อย่างเท่าเทียมและไม่มีการเลือกปฏิบัติ
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง