วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:13 น.

การเมือง

 “พรรคกล้าธรรม” ขนลูกพรรค ตากฝนปราศรัยเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีธรรมราช

วันพฤหัสบดี ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568, 20.20 น.

 “พรรคกล้าธรรม” ขนลูกพรรค ตากฝนปราศรัยเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีธรรมราช  “ธรรมนัส” อ้อนขอคะแนนคนมีคอนเน็คชั่นส์ เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ ด้าน “นฤมล” ลั่น เป็นพรรคใหม่แต่ใจใหญ่ “ไผ่” ลั่น เขต 8 เมืองคอน ไม่ใช่สนามมวยแทนคนทำผิด    “ผู้กอง” บอกมูลนิธิธรรมนัส จะซื้อรถมือสอง สภาพดี ให้ลุงป้าคู่กรณี “ลูกพีช”  

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 บรรยากาศเวทีปราศัยใหญ่เลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช พรรคกล้าธรรม ที่สนามกีฬา โรงเรียนพิปูนสังฆรักษ์ประชาอุทิศ อ. พิปูน โดยส่งนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ “บิ๊กโอ” อดีต สจ.ฉวาง เป็นผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม หมายเลข 5 โดยก่อนการปราศรัย มีฝนตกปรอยๆ แต่ก็ยังมีประชาชนทยอยมาฟังการปราศรัยจำนวนมาก ซึ่งพรรคมีการเตรียมเก้าอี้ไว้ 6,000 ที่นั่ง และมีสำรอง ถ้าหากมีประชาชนมาเพิ่มอีก 

สำหรับแกนนำคนสำคัญที่มาร่งมเวทีปราศรัยวันนี้ นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย สส.พรรคกล้าธรรม อาทิ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม,นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา และนายทะเบียนพรรค,นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา และนายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สส.บัญชีรายชื่อ ขณะเดียวกัน ยังมีนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีต นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่เคยสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วย้ายมาพรรคกล้าธรรม ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นายก้องเกียรติ ซึ่งในระหว่างปราศรัยฝนก็ตกตกลงมาตลอด แต่แกนนำก็ยังปราศัยขอคะแนนเสียงกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อขอโอกาสให้นายก้องเกียรติ ได้เข้าไปทำหน้าที่ สส. ในสภา สังกัดพรรคกล้าธรรม 

โดยในช่วงหนึ่ง นายไผ่ ลิกค์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้บอกให้นายก้องเกียรติ ก้มกราบ พ่อแม่พี่น้องประชาชนบนเวที ขอความเมตตา และให้จำภาพวันนี้ไว้ว่าเป็น สส. แล้ว ก็ต้องทำแบบนี้ได้ 

ส่วนนายชนนพัฒฐ์ ระบุว่า มีความพยายามที่จะโจมตีว่าพรรคกล้าธรรม เป็นพรรคลูกของพรรคจัดตั้งรัฐบาล ขอยืนยัน ไม่ใช่พรรคลูกของใคร เป็นพรรคกล้าธรรม ที่เป็นพรรคต้นกล้า ต้นใหม่ กล้าคิด กล้าทำ เพื่อประชาชน 

ด้านนายก้องเกียรติ บอกว่า ตนเป็น สจ.ฉวาง ไม่พูดมาก ถ้าช่วยได้คือได้ ไม่ได้คือไม่ได้ เป็น สจ. มา 2 ปีทำงานคุ้มค่าเงินเดือน จึงทำให้อยากเป็น สส. เพื่อที่จะทำงานให้คุ้มค่าในการดูแลประชาชนได้มากกว่าการเป็น สจ. ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้อาสาลงสมัคร แต่ก็ไม่ได้ลง จึงประเมินว่าถ้าอยู่สังกัดพรรคเดิม คงไม่ได้สมัครแน่ จึงเดินออกมา และมีคนถามว่า ทำไมจึงมาพรรคกล้าธรรม อยากจะถามกลับว่า จะให้ลงพรรคไหน เพราะพรรคอื่นมีคนอยู่แล้ว มีทายาททางการเมือง มีพรรคกล้าธรรมพรรคเดียว ที่ให้คนตั้งใจ มีความสามารถ ซึ่งตนรู้จักกับกำนันพงษ์ศักดิ์ ที่บอกว่า 

“ทำงานหรอย สไตล์มึง ต้องอยู่กับผู้กองธรรมนัส กล้าได้กล้าเสีย คำไหนคำนั้น ซึ่งเมื่อพบกับผู้กอง ก็บอกว่า พรรคนี้เน้นคนทำงาน ไม่เน้นสร้างภาพ และต้องยอมรับการถูกโจมตีและตรวจสอบ ซึ่งตนก็ยอมรับการตรวจสอบอยู่แล้ว และตั้งใจทำให้มีกำลังใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง และเป็นความอยากส่วนตัว” นายก้องเกียรติ

ขณะ ร.อ.ธรรมนัส เค้นเสียง ชวนชาวพิบูลเล่นเกมกลางสายฝน โดยการหมุนร่มที่กางท้าสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนเป็นการละลายพฤติกรรมสร้างความใกล้ชิดกับชาวบ้าน จากนั้น ได้ปราศรัยอย่างดุเดือดว่า จังหวัดนครมี สส. 10 คน แต่ทำไมไม่มีรัฐมนตรีสักคนทั้งที่เป็นเมืองหลวงของปักษ์ใต้ เรื่องนี้ถือเป็นศักดิ์ศรีของพี่น้องชาวนครฯ พร้อมกล่าวว่า การเลือกคนเข้าไปเป็น สส. เขาเรียกว่าเลือกไปเป็นขี้ข้าประชาชน ไม่ใช่เลือกไปเป็นเจ้าคนนายคน ดังนั้น ไม่ว่าชาวบ้านจะเดือดร้อนอะไร ตีหนึ่ง ตีสอง ก็ต้องไป ไม่ใช่ตอนหาเสียงก้มกราบประชาชน พอได้เป็นแล้วก็ต้องกราบแบบเดิม บางคนพอได้เป็น สส. ก็เชิด (โดยได้ทำหน้าล้อเลียนเชิดหน้าขึ้นฟ้า) แล้วบอกว่า คนแบบนี้อย่าไปเลือก ปัญหาของชาวพิปูน ต้องหาคนที่ใจถึงพึ่งได้ พูดสั้นๆ ว่า “ได้ครับ ได้ครับ” ไม่ต้องพูดมาก ไม่ต้องมีเหตุผล คนเป็น สส. ที่ผ่านมา รับแล้ว รับอีก แต่ไม่เคยทำได้สักที เพราะไปเลือกคนที่ไม่มีคอนเน็คชั่นส์ แต่ถ้าเลือก “บิ๊กโอ” ซึ่งเป็นน้องของพี่นัส ต้องผลักดันสร้างถนนจากพิปูนไปท่าศาลาให้สำเร็จ 

ส่วนนางนฤมล ที่ขึ้นเวทีปิดท้ายการปราศรัยสายฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ได้ปราศรัยว่า ผู้กองธรรมนัส หัวใจเสริมใยเหล็ก มีเหล็กในหัวใจ
 แข็งแรงกว่าเดิม ช่วงแรกที่ผู้กองธรรมนัส พา สจ.โอ ไปแนะนำ นั่งคุยกันถึงความตั้งใจว่า เคยจะลงสมัคร สส. ปี 2565 แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ไม่ได้ลงสมัคร ในเมื่อโอกาสมาถึง วันนี้จึงอยากจะขอโอกาส ซึ่งพรรคกล้าธรรมมีมารยาททางการเมือง ถ้าพรรคร่วมด้วยกันส่ง เราก็จะส่ง ซึ่งวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลมีส่งเลือกตั้งซ่อมรวม 3 พรรค จึงขอโอกาสให้กับพรรคการเมืองน้องใหม่ แต่ใจใหญ่ พรรคกล้าธรรม สายธรรม ขอโอกาสให้กับ “บิ๊กโอ” เราเป็นพรรคที่ไม่มีก๊วน ไม่มีสาย ถ้าจะบอกว่า “บิ๊กโอ” เป็นสายไหน เรามีสายเดียวในพรรคกล้าธรรม คือ สายธรรมมนัส ที่มาตามนัด พรรคกล้าธรรม กล้าที่จะทำตามที่เราสัญญา 

“ไผ่” ลั่น เขต 8 เมืองคอน ไม่ใช่สนามมวยแทนคนทำผิด  

  นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค   ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เราหวังเต็มที่อยากจะมีตัวแทนของชาวนครศรีธรรมราชเพื่อไปสะท้อนปัญหา เข้ามาที่นี่รู้สึกแปลกใจอย่างหนึ่งที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ตอนนั่งมากับคนขับรถ เขาบอกมาว่าที่นี่มีโรงแรมราคาเป็นหมื่น แต่ทำไมพี่น้องยังจนอยู่ ยังเป็นหนี้อยู่ ทำไมยังไม่อยู่ดีกินดี อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าครั้งนี้นายก้องเกียรติชนะแน่ ตนบอกเลยสนามเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก ไม่ใช่สนามสำหรับใครที่ทำความผิดแล้วส่งใครมาลงแทน หรือไม่ใช่สนามที่ใครผิดหวัง ตกจากที่อื่นแล้วมาลงที่นี่ แต่นายก้องเกียรติรอที่จะลงจากที่นี่ ครั้งที่แล้วผิดหวังไป แต่เขาก็รอที่จะลง คนนี้คนจริง พรรคกล้าธรรมเราไม่ใช่พรรคลูกของใคร เราจะทำตามแนวทางของเรา เราจะทำทุกอย่าง ต่อสู้ทุกอย่างเพื่อประชาชน เชื่อว่าชนะแน่นอน โพลทุกอย่างก็ชนะ 

ขณะที่นายชนนพัฒน์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ปราศรัยว่า คู่แข่งชอบพูดเสมอว่า นายก้องเกียรติไม่มีทางชนะเขาได้แน่นอน พวกเราทำให้เขาเห็นได้หรือไม่ เอาไปตบปากพวกเขา พวกที่คอยดูถูกพวกเรา มันเป็นปมในใจที่ทำให้ตนรู้สึกมีความแค้น รู้สึกว่าเราต้องสู้ เวลาพูดในหลายที่มักจะให้เราเป็นตัวรองเสมอ แต่ด้วยความใจสู้ของเรา ต่อให้เป็นรองขนาดไหนเราก็จะสู้จนนาทีสุดท้าย แต่การสู้ของพวกเราจะบังเกิดผลไม่ได้ถ้าไม่ได้ประชาชน วันนี้ต้องช่วยกันสอนมวยพวกที่สบประมาทพวกเรา 

”คนอื่นมักบอกว่า เราเป็นพรรคลูกของพรรคการเมืองหนึ่งในรัฐบาล ซึ่งผมรู้ว่าพี่น้องชาวใต้ยังไม่ประทับใจในเรื่องนี้ จึงอยากมาการันตีพี่น้องประชาชนว่า พวกเราไม่ใช่พรรคลูกของพรรคใด“นายชนนพัฒน์ กล่าว

จากนั้นนายก้องเกียรติขึ้นปราศรัยว่า ตนเป็น สจ.ได้แค่ 2 ปีก็มีการเปิดรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต จึงลาออก แต่ไม่ได้รับความไว้วางใจให้ลงสมัคร สส. ตนตั้งหน้าตั้งตารอ และประเมินดูแล้วว่าถ้าอยู่ที่เดิมคงไม่ได้ลงสมัคร สส. ก็เดินออกมา ซึ่งมีผู้คนหลายคนถามว่าทำไมมาลงพรรคนี้ ตนก็ถามกลับว่าแล้วจะให้ตนอยู่กับใคร บางพรรคเขาก็มีคนของเขาอยู่แล้ว บางพรรคเขาก็มีทายาทอยู่แล้ว มันมีพรรคๆ เดียวที่เปิดให้คนมีความสามารถ มีความตั้งใจที่อยากจะเป็น สส. คือ พรรคกล้าธรรม ตนไม่ได้มาเป็นตัวแทนของใคร และตนไม่ได้ถูกหลอกให้มาลง ตนมีความตั้งใจมาลง ทั้งนี้ เชื่อว่าในบรรดาผู้สมัคร สส. ตนอยู่กับชาวบ้านมากที่สุด ไม่น้อยกว่าใครสักคน และเชื่อว่าสิ่งที่ทำมาในอดีตมันจะหนุนนำให้ตนประสบความสำเร็จ

ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมี สส.ตั้ง 10 คน แต่ทำไมนครศรีธรรมราชไม่มีรัฐมนตรีสักคน ทั้งที่จังหวัดนี้คือเมืองหลวงของชาวใต้ เราต้องคิดแล้วอันนี้ เป็นศักดิ์ศรีของคนนครศรีธรรมราชใช่หรือไม่ การเลือกคนไปเป็น สส.ต้องเป็นขี้ข้าประชาชน ไม่ใช่เจ้าคนนายคน ก่อนหาเสียงก้มกราบชาวบ้านพอได้เป็นแล้วก็ต้องก้มกราบเหมือนเดิม ปัญหาในพื้นที่มีหลายเรื่อง ต้องหาคนที่ใจถึงพึ่งได้ ถนน 4189 จาก อ.พิปูนไป อ.ท่าศาลาหลายคนเป็น สส.รับปากแล้วรับปากอีก แต่ไม่ได้ทำ เพราะเลือกคนที่ไม่มีคอนเนกชั่น ถ้าได้นายก้องเกียรติเป็น สส. เป็นน้องธรรมมนัส มีพลัง มีมือในการการสร้างถนนสายนี้

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเป็นผู้จัดการรัฐบาลตั้งแต่ชุดที่แล้วเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชาเป็นนายกฯ และถ้าท่านได้เป็นนายกฯต้องทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับความสุข ขออย่างเดียวการเป็นนักการเมืองขอให้คนในพื้นที่รัก ประชาชนมีความสุข วันนี้ขอคนพิปูนเข้าคูหาเลือกนายก้องเกียรติ

ด้านนางนฤมล ปราศัยว่า มีพรรครวมรัฐบาลส่งด้วยกันถึง 3 พรรค เราขอโอกาสให้กับนายก้องเกียรติ ให้กับพรรคกล้าธรรมได้รับใช้ประชาชนในเขต 8 นายก้องเกียรติทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด พรรคกล้าธรรมเหมือนจะเป็นพรรคใหม่ แต่เราไม่ได้ใหม่ ปี 62 ตอนอยู่พรรคเก่าก็หาเสียงกันอยู่แถวๆ นี้ ปี 66 ก็หาเสียงที่นี่ทั้ง 10 เขต ส่วนในปี 68 นี้ เราหาเสียงที่เขต 8 เขตเดียว เราหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากประชาชน พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคน้องใหม่ที่ใจใหญ่ ดูที่ปรึกษาพรรคเสียก่อนว่าใหญ่ขนาดไหน เราเป็นพรรคที่ไม่มีก๊วน ไม่มีสาย ไม่ต้องบอกว่านายก้องเกียรติเป็นสายไหน เรามีสายเดียวในพรรคกล้าธรรม คือ สายธรรมนัส 

 “ผู้กอง” บอก มูลนิธิธรรมนัส จะซื้อรถมือสอง สภาพดี ให้ลุงป้าคู่กรณี “ลูกพีช” 

 ร.อ.ธรรมนัส  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มูลนิธิธรรมนัส จะซื้อรถชดเชยให้กับลุงและป้า คู่กรณีของนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช ที่ขับรถ BMW ชนบนทางด่วน ว่า ตนและกัน จอมพลัง ทำงานเพื่อสังคมมานานพอสมควร แต่วันนั้นที่โทรไป เพราะว่าลุงคนที่ขับรถกระบะ เขาเคยทำงานอยู่กรมชลประทาน เป็นลูกจ้างมานาน จึงได้มีการประสาน และตนได้สอบถามกับอดีตอธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ตนจึงประสานให้ กัน จอมพลัง ไปเคลียร์เรื่องการรักษาพยาบาล หรืออะไรก็ตามที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้น ตนไม่ได้เข้าไปเคลียร์ ไม่ใช่หน้าที่ตน เป็นเรื่องของกฎหมาย 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หากเขาไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทางมูลนิธิธรรมนัสก็จะมีการระดมทุน แต่กัน จอมพลัง บอกกับตนว่ามีผู้ใจบุญออกค่ารักษาพยาบาลไปหมดแล้ว แต่ในส่วนรถกระบะ ถ้ามาซ่อมก็จะเหมือนเศษเหล็ก ขายได้ไม่กี่ตัง ทางมูลนิธิธรรมนัส สามารถช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้ กัน จอมพลังจึงให้ตนรับผิดชอบ ตนก็ยินดี และยืนยันว่าจะดูแลเรื่องนี้ ไม่ไปซื้อรถเก่า 

เมื่อถามว่า การซื้อรถครั้งนี้ ใช่รถป้ายแดงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะมีการเอารถอย่างดีให้ อาจจะเป็นรถมือสองสภาพใหม่ และดีกว่ารถคันเดิม 

ส่วนกรณีที่มีคนกังวลว่า เงิน 1 แสนบาทที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ส นายก อบจ.ปทุมธานี มอบให้เพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล จะเพียงพอหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้เราช่วยคนมาทั่วประเทศไทยอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากไม่พอ จะให้มูลนิธิธรรมมนัสนําร่องช่วยเหลือ ถ้าไม่มีจริงๆ เราจะรับผิดชอบทั้งหมด ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) กัน จอมพลัง จะไปดูในเรื่องของรถที่จะให้ลุงกับป้า 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ออกมาบอกว่ามีนายใหญ่สั่งให้กัน จอมพลัง หยุดเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มี จะไปเกี่ยวอะไรกับนายใหญ่ ไม่มี ตนโทรหากัน จอมพลังเป็นเรื่องปกติ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภัยธรรมชาติ หรืออะไรก็ตาม แม้บางเรื่องตนไม่ได้ออกหน้า แต่ที่กัน จอมพลังไป ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ตนสนับสนุนตลอดเวลา ไม่มีเรื่องเคลียร์อะไร 

“ยืนยันว่าคนอย่างธรรมนัส ใครมาสั่งไม่ได้ เราเป็นคนทำงานให้ชาวบ้านด้วยใจ จะมาสั่งให้ทำนู่นทำนี่ ไม่มีหรอกครับ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า มีคนตั้งค่าหัวกัน จอมพลัง 5 แสนบาท ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ว่าไปเรื่อย คนเราเป็นคนจริงอยู่สังคม อย่าไปกลัวอะไร ไม่มีใครทำอะไรกัน ได้หรอกครับ ถ้าทำกัน ก็เท่ากับทำธรรมนัสด้วย พร้อมยืนยันว่า มีกันมีนัส มีกันมาตั้งแต่ยังไม่ดัง และไม่ได้คุยกับเต้ มงคลกิตติ์ นานแล้ว ส่งไลน์มา 2-3 วัน ตนก็ยังไม่ได้อ่าน 

เมื่อถามว่า ไลน์มาเพราะต้องการมาสังกัดพรรคกล้าธรรมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่เขาอยู่พรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง