"ธรรมนัส"  โต้กระแสปรับ ครม. บอกเป็นคนวงในไม่มีกรอกประวัติ ชี้ไม่ใช่เวลา ต้องแก้ปัญหาประชาชนก่อน เผยสัปดาห์หน้า มี สส.ฝ่ายค้าน ประกาศจุดยืนร่วมงาน  ไม่ขัด หาก พปชร. ร่วมรัฐบาล 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568     ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พะเยาเขต 1 ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้า ลงพื้นที่ปราศรัยขอคะแนนเสียงให้กับนายก้องเกียรติ ผู้สมัครเบอร์ 5 ที่ อ.ฉวาง จ. นครศรีธรรมราช ว่า ตลอดการลงพื้นที่ มีความมั่นใจกระแสตอบรับ ของประชาชนในทุกอำเภอ โดยเฉพาะที่ อ.พิปูน และ อ.ฉวาง ยืนยันว่า พรรคกล้าธรรมทุ่มสุดตัว สังเกตได้จากหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ขนทัพผู้บริหารพรรครวมถึง สส. มาช่วยหาเสียงทั้งหมด ขณะที่ตนก็มาปักหลักอยู่พื้นที่หลายคืนแล้ว 

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงกระแสการปรับ ครม. ที่มีรายงานข่าวว่าคนที่จะได้รับตำแหน่งไปกรอกประวัติแล้ว ว่า ขอพูดในฐานะที่เป็นคนใน ไม่มีหรอก กรอกประวัติ พูดกันไปเรื่อย มันไม่ใช่เวลาที่ที่จะมาปรับ ครม. ตอนนี้ ขณะนี้เป็นเวลาที่ต้องแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจก็มีเยอะ เชื่อว่า นายกฯ ก็ตระหนักในเรื่องนี้ดี รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลก็คุยในเรื่องนี้กัน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่คร่ำหวอดทางการเมืองมานาน มองว่าเป็นแค่การปล่อยข่าวในพรรคเพื่อไทยหรือเรื่องจริง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย แต่ถ้าเป็นพรรคกล้าธรรม “ไม่มี” เราคุยกันตลอดเวลา กับทุกคน โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค ไม่เห็นหน้าก็โทรคุยกันตลอด 

และเมื่อถามว่าพรรคกล้าธรรมจะไม่มีการขยับตำแหน่งใน ครม. ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขยับแล้วจะไปไหนยกเว้น นายอรรถกร ศิริลัทธยากร จะขยับ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้เป็นบิดาไปพักผ่อน แล้วคนอื่นจะไปอยู่ไหน เป็นผม ผมไม่ทำลูกน้อง ยืนยันในพรรคกล้าธรรม นอกจากนายอรรถกร นายอิทธิ และนายไผ่ ลิกค์ เอง ถ้าประวัติผ่านก็มีสิทธิ์เป็นรัฐมนตรี มีแค่นั้นเอง ตรรกะ 

และเมื่อถามย้ำว่าต้องเป็นกระทรวงเดิมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยัน เป็นกระทรวงของพรรคกล้าธรรม เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเครือข่าย ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีก เดี๋ยวเขาจะประกาศ มาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็น สส. จากพรรคฝ่ายค้าน โดยเจ้าตัวจะประกาศจุดยืนชัดเจน ในการขอมาทำงานกับพรรคกล้าธรรม ตนก็บอกว่า อย่าเป็นชนวนให้ต้องทะเลาะกัน เพราะตนไม่ชอบทะเลาะกับใคร 

อย่างไรก็ตาม ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ไม่ใช่ สส. 5 คนของพรรคนั้น (ไทยสร้างไทย) แต่เป็นพรรคอื่น

ส่วนถ้าได้ สส.มาเพิ่มแล้ว จะเพิ่มโควตารัฐมนตรีหรือไม่ ตนได้คุยกับนางนฤมลตลอดเวลา เราต้องการทำพรรคของเราให้ใหญ่ แค่นั้นเองเราไม่ได้คิดจะเพิ่ม ไม่ได้คิดจะไปต่อรองอะไร กับใคร เราต้องการสร้างครอบครัวให้มีความมั่นคงและยิ่งใหญ่ขึ้น ถ้าวันที่ 27 เมษายนนี้ได้ สส.เพิ่มอีก 1 คน แล้วก็จะมีเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ 

ขณะเดียวกัน เราเริ่มทำการบ้าน เริ่มวางตัวผู้สมัคร สส. แล้ว บางคนซ่อนตัวอยู่ ตนบอกว่า อย่าเพิ่งเข้ามา เพราะขี้เกียจทะเลาะ ถึงเวลาบ้านเมืองวิกฤตแล้วค่อยมาช่วยกัน 

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เมื่อมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ก็ต้องได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มมากขึ้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถ้าสมาชิกเพิ่มก็เป็นความชอบธรรมที่จะจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่ม พร้อมยืนยันผมไม่ได้โลภมากขนาดนั้น แต่ต้องการสร้างพรรคกล้าธรรม สร้างครอบครัวกล้าธรรมให้มีความแข็งแรง 

เมื่อถามว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ จะเพิ่มอีกเท่าไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนทําการบ้านกับคณะผู้บริหาร เราเริ่มวางตัวว่าที่ผู้สมัครแล้ว คนที่เป็น ส.ส.ปัจจุบันที่ซ่อนตัวอยู่ ก็อยากเข้ามา ตนก็บอกว่าอย่าพึ่งเลย เดี๋ยวจะทะเลาะกัน รอให้ถึงเวลาบ้านเมืองวิกฤติ ค่อยมาช่วยกัน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะดึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วมรัฐบาล หากเป็นจริงจะร่วมงานกันได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนคือกล้าธรรม และกล้าธรรมก็มีครอบครัวของเราที่อบอุ่น อยู่กันแบบพี่น้อง ไม่มีนายมีบ่าวหรือลูกน้อง ดังนั้น พรรคไหนจะมาหรือไม่ เราไม่สนและไม่เกี่ยว อย่ามายุ่งกับพรรคเราก็แล้วกัน

เมื่อถามยํ้าว่า สามารถทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราทำงานให้กับทุกคน แต่ต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ที่สำคัญพรรคเราเชิดชูสถาบันฯ เราชัดเจน ไม่ต้องเป็นอีแอบ

เมื่อถามว่า คิดว่าลุงป้อมจะยอมกลับมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “นี่ลุงนัส ไม่ใช่ลุงป้อม ไม่อาจพูดแทนได้ ปีนี้รับเบี้ยผู้สูงอายุ 600 แล้ว”

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคเพื่อไทย จะทิ้งพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราอยู่อย่างทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว ตนคิดว่าไม่มีหรอก อย่าไปฟังข่าวมาก ตนก็อินไซด์มากพอสมควร รักกันดีกว่า บ้านเมืองเจริญ