วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:16 น.

การเมือง

ชาวไทยมุสลิมสงขลา ร่วมละหมาดฮายัตขอสันติสุขเกิดขึ้น หลังคนร้ายกราดยิงพระสามเณรสะบ้าย้อย

วันศุกร์ ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568, 19.00 น.

ชาวไทยมุสลิมสงขลา ร่วมละหมาดฮายัตขอสันติสุขเกิดขึ้น หลังคนร้ายกราดยิงพระสามเณรสะบ้าย้อย ขณะที่ "โฆษกกองทัพบก" เผย "ผบ.ทบ." ย้ำ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า เข้มรักษาความปลอดภัย บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ดูแลเป้าหมายอ่อนแอ พร้อมแสดงความเสียใจเหตุการณ์รุนแรง จชต. 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568   จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงพระภิกษุและสามเณร ขณะออกเดินทางไปบิณฑบาต ในพื้นที่บ้านคลองเรียน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 เป็นเหตุให้มีสามเณรมรณภาพ 1 รูป พระภิกษุได้รับบาดเจ็บ 2 รูป สามเณรบาดเจ็บกระทบกระเทือนจิตใจ 3 รูป คนขับได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน

วันนี้(25 เม.ย.) ที่ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา พี่น้องชาวไทยมุสลิมในจังหวัดสงขลา พร้อมใจกันประกอบพิธีละหมาดวันศุกร์และขอดุอาร์ขอพร เพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ส่วนมัสยิดอีก 420 แห่งทั่วจังหวัด ต่างก็ประกอบพิธีพร้อมกัน เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงเกินกว่าจะรับได้ โอกาสนี้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ร่วมละหมาดฮายัตและดุอาร์ขอพรร่วมกับพี่น้องชาวไทยมุสลิม พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาในการยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ สะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ บนพื้นฐานของความเข้าใจ การยอมรับ และการเคารพในคุณค่าของกันและกัน

นายเฉ็ม เหมมัน รองประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นเรื่องไม่คาดคิด เนื่องจากจังหวัดสงขลาเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความสงบสุขมาโดยตลอด การกระทำรุนแรงเช่นนี้จึงสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อผู้เสียหายเป็นพระภิกษุและสามเณรผู้ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรม เพื่อถ่ายทอดคำสอนแห่งศาสนาเช่นเดียวกับชาวไทยมุสลิม ทั้งนี้ จุฬาราชมนตรีได้มีบัญชาให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดลงพื้นที่เพื่อเยียวยาและแสดงน้ำใจต่อผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้เชิญชวนให้มัสยิดทั้ง 420 แห่งร่วมขอดุอาร์ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าให้เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย และขอให้สถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้คลี่คลาย ความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่ พร้อมร่วมเจตนารมย์กับส่วนราชการในการยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ ดังคำสอนของท่านนบีมูฮัมหมัดที่เน้นย้ำให้ชาวมุสลิมยึดมั่นในความสงบสุข รักแผ่นดินเกิด และละเว้นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะการบิดเบือนคำสอนของศาสนาเพื่อสร้างความแตกแยก ถือเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองอย่างยิ่ง

นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องไทยมุสลิมอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสวันศุกร์นี้ ได้เข้าร่วมพิธีละหมาดพร้อมชาวไทยมุสลิม ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเห็นจังหวัดสงขลาและสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง โอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา อิหม่ามมัสยิดกลาง และผู้นำศาสนาอิสลามทุกท่าน ที่ได้ให้ความร่วมมือในการเน้นย้ำหลักคำสอนของพระเจ้า “พระอัลลอฮ์” อันส่งเสริมให้ผู้ศรัทธาดำเนินชีวิตด้วยความสันติ เคารพผู้อื่น และเชื่อฟังผู้นำท้องถิ่นเพื่อประโยชน์แห่งความสงบสุขของบ้านเมือง

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จังหวัดสงขลา มีแนวทางที่จะส่งเสริมให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ โดยจะเชิญคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดหารือร่วมกับคณะสงฆ์ทั้งฝ่ายธรรมยุตและมหานิกาย รวมถึงผู้นำทุกศาสนา ร่วมจัดกิจกรรมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างศาสนาอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าทุกศาสนาในจังหวัดสงขลาจะสามารถดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และประชาชนสามารถประกอบอาชีพ ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขภายใต้สังคมที่มั่นคงและสงบสุข

"ผบ.ทบ." สั่งดูแลเป้าหมายอ่อนแอ เข้มใช้กม.-รักษาความปลอดภัย เหตุป่วนใต้
 
ที่กองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กองทัพบกขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่าน ซึ่งเหตุดังกล่าวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้มีการทำลายทรัพย์สินทั้งของทางราชการ และของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงสิ่งที่สังคมไม่อาจยอมรับได้คือ การลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้นำศาสนา พระภิกษุ สามเณร ในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนอกจากต้องการให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นแล้ว อาจมีเจตนายั่วยุให้สังคมเกิดความแตกแยก เกิดความหวาดระแวงกัน โดยเฉพาะต้องการสร้างภาพความสะเทือนใจให้ปรากฏแก่ประชาชนโดยทั่วไป

โดยทาง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ห่วงใยต่อสถานการณ์ จึงสั่งการ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้เน้นย้ำมาตรการต่างๆ ที่จะใช้ในการดูแลสถานการณ์ รอง ผอ.รมน.จึงได้เน้นย้ำให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย และบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนของสถานการณ์

ทั้งนี้เพื่อยับยั้งการก่อเหตุความรุนแรงต่อเป้าหมายอ่อนแอในพื้นที่ให้ได้อย่างดีที่สุด และเร่งนำตัวผู้กระทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว ภายใต้กลไกของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดย กอ.รมน.ภาค 4 สน. ที่ต้องอาศัยกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มาร่วมกันปฏิบัติภารกิจ รวมถึงการสนับสนุนที่ดีจากภาคประชาชน ทั้งในระดับพื้นที่ และในระดับประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้สถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยรวม ได้มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม กองทัพบก ขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนได้มาร่วมกันกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ในการแสดงออกเพื่อปฏิเสธการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ที่มุ่งกระทำต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และขอให้ใช้วิจารณญาณในการบริโภคข่าวสาร โดยเฉพาะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบระมัดระวัง เพื่อจะไม่ตกเป็นเป้าหมายจากการปลุกปั่นของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มุ่งทำร้ายสังคม และประเทศชาติให้ได้ในทุกวิถีทาง

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง