เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568  นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิด โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบผสมผสาน โดยจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลดการชะล้างพังทลายของดินรอบหนองหาร จ.สกลนคร เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและใช้ประโยชนใต้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ณ บ้านบึงแดง หมู่ที่ 6 ต.โคก
ก่อง อ.เมือง จ.สกสนคร 

โดยนายอิทธิกล่าวว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ปัญหากาการชะล้างพังพลายของดิน จำนวน 108 ล้านไร่ โดยเป็นพื้นพื้นที่อยู่ในระดับการซะล้างรุนแรง จำนวน 40 ล้านโร่ อีกทั้งสภาพปัญหาพื้นฐานการทำการทำการเกษตรที่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ทำให้มีความเสี่ยงต่องต่อการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ทั้งภัยพิบัติน้ำท่วมภัยแล้ง และและฝนไม่ตกตามฤดูกาล ส่งผลให้ทรัพยากรดินเกิดความเสื่อมโทรม และกระทบต่อผลผลทางการเกษตร ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน

 ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อการเกษตรและได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบผสมผสาน โดยจัดระบบบอนรักษ์ดิมและน้ำ ลดการชะล้างตีนรอบหนองหาร โดยดำเนินกิจกรรม "ระบบส่งน้ำและกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์" ในพื้นที่บริเวณหนลงหาร ซึ่งเป็นทะเลสามน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันอันดับ 2 ของประเทศ ครอบคลมตำบลม่วงลาย และตำบลโคกก่อง อ้ง อ้าเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป้าหมายสำคัญสูงสุด คือ ป้องกันและละลดการชะล้างพังทลายของดิน และลดปริมาณตะกอนลงสู่แหล่งน้ำ อนุรักษ์ฟื้นฟูให้สามารถใช้ที่ดินได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมตามศักยภาพของพื้นที่พัฒนาพื้นที่ตามแบบรูปมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำด้วยวิธีกล และเพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและใช้ประโยชน์ในพื้นพื้นที่การเกษตรบริเวณรอบหนองหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถปลูกพืชหลังนาสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

สำหรับกิจกรรมที่ดำเนินการภายใต้โครงการฯ มีเป้าหมายในพื้นที่บริเวณหนองหาร ประมาณ 7.000 ไร่ ประกอบด้วย 1. กิจกรรมระบบกระจายน้ำด้วยท่อโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยก่อสร้างสถานีสูบ น้ำ 2 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ตำบลม่วงลาย 1 แห่ง บริเวณริมหนองหาร ความยาวพ่อกระจายน้ำ 2,806 เมตร และพื้นที่ตำบลโดกก่อง 1 แห่ง บริเวณบึงหนองแดง ความยาวท่อกระจายน้ำ 5,620 เมตรพื้นที่รับประโยชน์ จำนวน 2,520 ไร่ 2 กิจกรรมปรับระดับพื้นพื้นที่นาให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ พื้นที่รับประโรชน์ จำนวน 2,365 ไร่ และ3 กิจกรรมงานโครงสร้างระบกระจาศนำ ได้แก่ งานฝ่ายฝ่ายน้ำล้น งานรางคอมกรีส และงานพ่อนำออก พึมที่รับประโยชน์ 1 6555 ทั้งนี้เพื่อลดและป้องกันการขะล้างพังทลายของดิน และพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรม ด้วยการบริหารจัดการดินและน้ำ อย่างเป็นระบบและใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในโอกาสนี้รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ยังได้ปลูกต้นได้และร่วมปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียนทอง จำนวน 1 แสนตัว ลงสู่แหล่งน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำในธรรมชาติให้คงความอุดมอุดมสมสมบูรณ์ ตลอดจนสามารถเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ เพื่อสร้างอาชีพด้านการประมง และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างยังยืนต่อไปด้วย