เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 นายเพชรทาย วงศ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กมก และนายโอบะ เสียงเหน่อ นายกมูลนิธิศิลปินตลกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง และดร.มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมทำอาหารอีสานประกอบด้วย ส้มตำ ไก่ทอด และข้าวเหนียว ที่บริเวณศูนย์พักพิงของญาติผู้สูญหาย จากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม เพื่อเป็นกำลังใจหลังครบ 1 เดือนที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

"หม่ำ จ๊กมก" เปิดเผยว่า วันนี้จะมาทำอาหารอีสานและนำเงินมามอบให้กับ กัน จอมพลัง เพื่อช่วยเหลือญาติผู้ประสบภัย เนื่องจากวันนี้ครบรอบหนึ่งเดือนที่เกิดเหตุการณ์ ตนเองรู้สึกสงสารและเห็นใจ เพราะเห็นทุกคนเป็นเหมือนครอบครัวตนเอง อีกทั้งยังพบว่ามีคนยโสธร ซึ่งเป็นบ้านเดียวกับตนเองด้วย จึงอยากเดินทางมาเป็นกำลังใจให้ 

ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตนเองดีใจแทนทุกคน ที่หม่ำ จ๊กมก มาในวันนี้ เนื่องจากเป็นศิลปินตลกระดับประเทศ และเป็นหนึ่งในคนที่ญาติผู้ประสบภัยอยากเจอมากที่สุด อยากขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่มาช่วย ตนเองเป็นเพียงแค่สะพานบุญ แต่คนที่ช่วยจริงๆคือพวกเขาเหล่านี้ โดยตอนนี้ยังมีญาติที่รอคอยความหวังอีกประมาณ 30 คน ซึ่งตนเองจะดูแลแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบ เพราะบางคนไม่มีที่ไปจริงๆ ทั้งนี้ตอนนี้ยังไม่มีสิ่งที่ขาดเหลือ แต่หากใครอยากเข้ามาช่วยก็แล้วแต่ศรัทธา ตนเองยินดีต้อนรับ

ดีเอสไอเปิดตู้เอกสาร 24 ตู้ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร สตง. เบื้องต้นพบมีประโยชน์ต่อรูปคดี
 
พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากที่ดีเอสไอ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ 24 ตู้ เพื่อตรวจสอบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มจากแผ่นดินไหว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะมีหนังสือขออายัดเอกสารดังกล่าวไว้ แต่การตรวจสอบเบื้องต้น พบเอกสารสำคัญ เช่น แฟ้มการส่งมอบงานให้กับ สตง. รายงานความคืบหน้างานก่อสร้างประจำเดือน เอกสารการซื้อปูน เหล็ก และสัญญาอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ เช่น ลิฟต์ คอมพิวเตอร์ แฟ้มสัญญาคุมงาน เอกสารขออนุมัติก่อสร้างรายวัน Shop Drawing ซึ่งใช้สำหรับแก้แบบ หรืออธิบายการก่อสร้าง และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมงาน ทั้งนี้ แม้การตรวจเอกสาร ยังไม่แล้วเสร็จ แต่เจ้าหน้าที่เห็นว่า เอกสารดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการพิสูจน์ข้อเท็จจริง จึงได้รวบรวมไว้ เพื่อจะร่วมพิจารณากับรายละเอียดที่มีอยู่อีกครั้ง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะปิดผนึกกล่องเอกสารที่ยึดอายัดไว้ และจะนำไปเก็บรักษาที่ดีเอสไอ เพื่อทยอยตรวจสอบ โดยมีการบรรจุในกล่องมากกว่า 100 กล่อง และขนย้ายด้วยรถหกล้อ 1 คัน ส่วนเอกสารที่ขนย้ายไปก่อนหน้านี้ ยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ซึ่งดีเอสไอจะต้องประสานขอเข้าตรวจสอบเช่นกัน

ส่วนการเรียกวิศวกรกว่า 40 รายเข้าให้ปากคำนั้น จะทยอยสอบปากคำทุกวัน วันละ 10 คน ขณะที่ คดีการฮั้วประมูลนััน ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร และยังไม่มีการกล่าวหาบุคคลใด