วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:46 น.

การเมือง

‘ประเสริฐ’  ลงพื้นที่ ‘นครพนม’ ติดตามเร่งรัดแก้ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยตามนโยบายรัฐบาล 

วันจันทร์ ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568, 21.03 น.

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และคณะลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาล พร้อมรับฟังรายงานผลการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน และผลการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงชนบทในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 2 จังหวัดนครพนม รวมไปถึงรับฟังปัญหาอุปสรรคและความต้องการของราษฎรในพื้นที่ และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงบ้านโพนสว่าง และป่าปลาปาก รวมจำนวน 819 แปลง ให้กับผู้แทนชุมชน จำนวน 10 คน นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านของสมาชิกบ้านมั่นคง หมู่ที่ 7 บ้านพรเจริญ ตำบลวังตามัว อำเภอเมือง โดยมี ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สคทช. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูลผลการดำเนินงาน 

นายประเสริฐ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแทบทุกจังหวัด ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทยและตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มีความมุ่งมั่นตั้งใจและไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะมาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งพี่น้องประชาชนทราบดีว่าการอนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คทช. กำหนด มีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ และต้องระมัดระวังไม่ให้ขัดกับข้อกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามในฐานะประธาน คทช. ได้พยายามเร่งรัดการจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่มีที่ดินเป็นของตนเองให้ได้สิทธิการเข้าใช้ประโยชน์ 

สำหรับจังหวัดนครพนมมีพื้นที่เป้าหมายที่จัดที่ดินทำกิน  คทช. รวม 6 พื้นที่ และทราบว่ามีอีก 2 พื้นที่เป้าหมาย คือ ป่าดงหมู (ระยะที่ 1) บ้านโสกแมว กับป่าห้วยศรีคุณ ได้รับมอบสมุดแล้ว ส่วนป่าดงเซกาแปลงที่ 2 ระยะที่ 1 ได้รับเล่มไปบางส่วนแล้วที่เหลือจะเร่งด าเนินการ ส าหรับป่าบ้านโพนตูมและ ป่านางุม ที่กำลังจะได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้จะสั่งการเพื่อเร่งรัดให้เร็วขึ้น เนื่องจากตอนนี้ยุโรปได้มีมาตรการ EUDR หรือการจะนำสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการนี้เข้าไปขายในยุโรป ต้องมีกระบวนการผลิตรวมถึงแหล่งวัตถุดิบที่ถูกต้อง จะต้องไม่มาจากการทำลายป่า และต้องเป็นพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

“ขอแสดงความยินดีกับ พี่น้องประชาชนจากพื้นที่ป่าดงบ้านโพนสว่างและป่าปลาปาก ที่ได้รับสมุดประจำตัวฯ คทช. ในวันนี้ทั้งสิ้น 819 แปลง ส่วนที่เหลือกรมที่ดินกำลังตรวจสอบและจัดทำสมุดให้เร็วที่สุด ขอฝากกับตัวแทนพี่น้องประชาชน ในที่ประชุมแห่งนี้ไปถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของท่านให้ช่วยกันสอดส่องดูแลรักษาพื้นที่ คทช. ไม่ให้ถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์การซื้อขายเปลี่ยนมือ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของสังคม และในฐานะที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีจะสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการที่ดิน การจัดทำสมุดประจำตัวฯ แบบดิจิทัลที่สามารถเข้าไปดูข้อมูลของตัวเองผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว 

นายประเสริฐ กล่าวว่า เพื่อให้การจัดที่ดิน คทช. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอมอบนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ 1. ขอให้กรมที่ดิน และ คทช. จังหวัดเร่งรัดจัดสมุดประจำตัวให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่แปลงที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว แต่ยังมอบสมุดไม่ครบ เช่น พื้นที่ป่าดงเซกาแปลงที่ 2 ระยะที่ 2 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 , 2. ขอให้กรมป่าไม้ เร่งดำเนินการอนุญาตในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านโพนตูมและป่านางุม โดยเร็ว , 3. ในส่วนของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตแล้ว ก็ขอให้ คทช.จังหวัด เร่งรัดการจัดราษฎรเข้าทำประโยชน์ และเตรียมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ พัฒนาความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น , 4. การคัดเลือกบุคคลให้ได้รับที่ดิน ให้ คทช. จังหวัดพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการจัดสรรที่ดิน ด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด , 5. ให้ คทช. จังหวัด และหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ หมั่นตรวจสอบ ดูแลพื้นที่ของรัฐภายหลังการอนุญาตไม่ให้มีการบุกรุกเข้าไปทำประโยชน์แบบผิดกฎหมาย 6. ปัญหาอุปสรรคที่หน่วยงานและผู้แทนประชาชนได้รายงานให้ที่ประชุมทราบในวันนี้ ขอให้หน่วยงานที่มีภารกิจโดยตรง ดำเนินการแก้ไขปัญหาทันทีและให้ คทช. จังหวัดเข้ามาบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงาน หากมีปัญหาอุปสรรคที่ต้องการการผลักดันเชิงนโยบายให้ คทช. จังหวัดแจ้งให้ สคทช. พิจารณาต่อไป 

นายประเสริฐ กล่าวขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ทำหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่และสุดกำลัง เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคนได้อยู่ดีมีสุข มีที่ดินทำมาหากิน โดยเฉพาะผู้บริหารจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น คทช.จังหวัดนครพนม ที่ดินจังหวัด เจ้าหน้าที่ ป่าไม้ และอีกหลาย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชนไปคืบหน้าอย่างมากและที่สำคัญ คือ พี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการจัดแปลงที่ดิน ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ยากไร้และไม่มีที่ดินทำกิน ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมคิดร่วมทำไปด้วยกัน และตนก็พร้อมจะผลักดันและสนับสนุนให้การดำเนินการใดๆ เกิดผลลัพธ์และผลสำเร็จที่ดี

ด้าน ดร.รวีวรรณฯ ภูริเดช ผอ.สคทช. กล่าวรายงานวัตถุประสงค์และภาพรวมของการติดตามเร่งรัดแก้ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยตามนโยบายรัฐบาลว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 2 ชุมชน บ้านพรเจริญ และการบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กร ชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงชนบทตำบลวังตามัว อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยผ่านโครงการบ้านมั่นคงชนบท เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิตตำบลวังตามัว ซึ่งได้ดำเนินการตามแผนกิจกรรม แล้วเสร็จตามเป้าหมาย ครอบคลุมผู้เดือนร้อน 301 หลังคาเรือน ซึ่งโครงการบ้านมั่นคงชนบทบ้านมั่นคงตำบลวังตามัว ถือเป็นกระบวนการการใช้เครื่องมือการพัฒนาที่อยู่อาศัยการสร้างความยั่งยืน ผ่านประเด็นงานที่อยู่อาศัยโดยการสร้าง ระบบสวัสดิการชุมชนที่อยู่อาศัยทุกมิติ และการมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอกที่ยั่งยืน จากภายในและการขับเคลื่อนงาน โดยชุมชนมีส่วนร่วมและต่อยอดกระบวนการขยายผลการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ เขตพื้นที่ป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ตำบล โพนสวรรค์ ตำบลโพนบก และตำบลนาใน ซึ่งสคทช. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรจากการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ คทช. ให้มีบ้านพักที่อยู่อาศัย มีอาชีพและรายได้ที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมั่นคง พร้อมทั้งดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ควบคู่กันไปด้วยเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หลักของ สคทช. ในการแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล 
 
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง