"แพทองธาร"โชว์ชุดศรีโคตรบูร ระหว่างประชุมครม.สัญจรนครพนม  ย้ำความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ-เร่งแก้ปัญหาน้ำภาคอีสาน 

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีที่จังหวัดนครพนม ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก Ing Shinawatra Forever  โดยได้เพิ่มรูปภาพใหม่ พร้อมข้อความว่า 
 
“ชุดศรีโคตรบูร” มีต้นกำเนิดจากอาณาจักรศรีโคตรบูร อาณาจักรโบราณแถบลุ่มแม่น้ำโขง สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านหัตถกรรมการทอผ้า โดยชาวจังหวัดนครพนมนิยมสวมใส่ในพิธีสำคัญทางศาสนา งานประเพณี และงานมงคลต่าง ๆ

เสื้อชุดศรีโคตรบูร ถูกตัดเย็บด้วยผ้าไหมพื้นเรียบสีกรมท่าย้อมคราม ขลิบด้วยผ้าไหมพื้นเรียบสีแดง (ย้อมครั่ง) ตกแต่งด้านหน้าด้วยผ้าไหมมัดหมี่ “ลายขอก่ายแก้ว” สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคง ซึ่งทอโดยกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า ภายใต้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษฯ และโครงการ “นาหว้าโมเดล” ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา นับเป็นการหลอมรวมประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความภาคภูมิใจของชาวนครพนมไว้อย่างงดงาม

ย้ำความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ-เร่งแก้ปัญหาน้ำภาคอีสาน

ทั้งนี้ที่มหาวิทยาลัยนครพนม นางสาวแพทองธาร  เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ สำหรับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ได้แก่ นครพนม มุกดาหาร และสกลนคร ก่อนการประชุมเริ่มต้น นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน พร้อมกล่าวถึงการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในโอกาสครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา โดยได้หารือความร่วมมือใน 4 ด้านหลัก ได้แก่

การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
การร่วมกันบล็อกสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากเครือข่ายอาชญากรรม
การยกระดับการควบคุมชายแดนเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย
การตรวจสอบแรงงานไทยในกัมพูชาให้มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง

นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประสานงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำความสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญระดับภูมิภาค พร้อมระบุว่าจะบรรจุหัวข้อนี้ในการหารือกับนานาประเทศเพิ่มเติม

ในด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความจำเป็นในการใช้กรอบความร่วมมืออาเซียน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และเพิ่มอำนาจต่อรองในการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง ร่วมกันจัดทำข้อเสนอที่สะท้อนจุดแข็งของไทยและอาเซียน เพื่อนำไปใช้ในการเจรจาการค้าต่อไป

ในส่วนความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรีเผยว่า ทั้งสองประเทศเตรียมจัดประชุมคณะรัฐมนตรีร่วม (Joint Cabinet Meeting) ที่จังหวัดสระแก้วในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาชายแดน เช่น ปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ ปัญหา PM 2.5 ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานอย่างใกล้ชิด

สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสกลนครและนครพนม นายกรัฐมนตรีพบว่ายังมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ทั้งเพื่ออุปโภคและบริโภค โดยมีโครงการที่อนุมัติตั้งแต่ปี 2563 แต่ดำเนินการได้เพียง 5% เท่านั้น จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดขั้นตอนการดำเนินงาน หากติดขัดด้านเอกสาร ให้ประสานกับ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขทันที

พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรโรงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติไปแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งในพื้นที่ภาคอีสานอย่างเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า หากเร่งรัดโครงการได้เร็วขึ้นแม้เพียงครึ่งหนึ่ง จะสามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้อย่างมีนัยสำคัญ และขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันตรวจสอบและเร่งดำเนินการโดยเร็ว