เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาไต่สวนคดีชั้น 14 ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ว่า ส่วนตัวมองว่า ไม่เคยมีกรณีแบบนี้ ปกติคดีความมักจะมีโจทก์ จำเลย แต่ครั้งนี้ยกคำร้องของผู้ร้อง และใช้อำนาจศาลไต่สวนเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้มีความกระจ่างว่าท้ายที่สุดเป็นอย่างไร ซึ่งประเด็นมีแค่เพียง ว่า ขณะนี้ฝ่ายที่คัดค้านมีความเห็นในทำนอง ว่า ไม่ได้ป่วยจริง ขณะที่ฝ่ายราชทัณฑ์ ฝ่ายหมอ ก็มีเอกสารพยานหลักฐานรับรองว่าเป็นไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง แต่อีกฝ่ายก็ไม่เชื่อ เห็นได้จากการอภิปรายในสภา หากศาล สั่งไต่สวนแบบนี้ ก็มองเป็นแง่ดี เพราะจะได้ชัดเจน

เมื่อถามว่า ในชั้นศาลจะต้องนำเอกสารเวชระเบียนต่าง ๆ ที่ไม่เคยถูกนำมาเปิดเผย ออกมาเปิดเผยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับศาลที่จะมีหมายเรียกออกมา ซึ่งเท่าที่ตนเองอ่านดูก็มีทั้งโจทก์ จำเลย ตั้งแต่ ป.ป.ช. กรมราชทัณฑ์ แพทย์ ก็ต้องให้เอกสารไป ซึ่งการที่ตนเองย้ำเนื่องนี้ เนื่องจากในความเข้าใจของสังคมมีความรู้สึกว่า การไปอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่การถูกควบคุม แต่ในความเป็นจริงทราบกันดี ตามระเบียบราชทัณฑ์ การควบคุมตัว การคุมขัง เป็นคนละส่วนกับศาลยุติธรรม ที่ศาลยุติธรรมมีหน้าที่พิพากษา แต่การบริหารโทษ การจัดการ เช่น การอภัยโทษ การที่คนจะได้รับการยกเว้นโทษ หรือ ได้รับการพักโทษ มีระเบียบ มีกฎหมายรองรับอยู่ เช่น คนที่มีอายุเกิน 65 ปี มีกฎเกณฑ์กติการองรับอยู่ แต่มีการไปสื่อในทำนอง ว่ากรณีนี้ไม่ได้ถูกควบคุมตัว ไม่ถูกคุมขัง แต่ความจริงแล้วในโรงพยาบาลก็ถือว่าถูกคุมขังเช่นเดียวกัน

ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงเรื่องเอกสารต่าง ๆ นายชูศักดิ์ มองว่า เป็นความเชื่อถือของแพทย์ และราชทัณฑ์ ที่เป็นผู้ทำเอกสาร ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของผู้มีวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง

สำหรับกรณีที่มีปัญหาเรื่องกฎหมาย ว่า จะต้องใช้ระเบียบราชทัณฑ์ หรือ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ระบุว่า การจะส่งตัวผู้ถูกคุมขังไปที่โรงพยาบาลต้องขอศาลก่อน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้เป็นกฎระเบียบ และอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมที่จะดูแล ซึ่งพ้นหน้าที่ของศาลแล้ว

เมื่อถามว่า หากเรื่องนี้เป็นไปในทางลบจะส่งผลกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ เพราะคนมองว่านายทักษิณมีอำนาจเหนือรัฐบาล หากการที่นายทักษิณไม่อยู่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรรัฐบาล นายชูศักดิ์ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล และมองว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีอำนาจเต็ม และทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่า ไม่กระทบอะไรกับรัฐบาล