วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568 20:03 น.

การเมือง

ปลัดมท.ยันสัมพันธ์แน่นแฟ้นยุติธรรม ลั่นไม่ใช่สงครามตัวแทนการเมือง – DSI เผยคดีฮั้ว ส.ว. เชื่อมโยงเครือข่ายอั้งยี่-ฟอกเงินกว่า 1,200 ราย

วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 16.32 น.

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมแน่นแฟ้น พร้อมร่วมมือปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ไม่ใช่การเปิด "สงครามตัวแทนพรรคการเมือง"  ตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์

นายอรรษิษฐ์ระบุว่า หน่วยงานในสังกัดมหาดไทยต่างปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเข้มงวด หลังกรมการปกครองมีหนังสือกำชับให้ทุกจังหวัดยึดหลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและ พ.ร.บ.ป้องกันการอุ้มหายฯ โดยยังไม่พบว่าหน่วยงานใดใช้อำนาจเกินขอบเขต พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่ทุกระดับได้รับคำสั่งให้คำนึงถึงสิทธิประชาชนเป็นหลัก

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เผยความคืบหน้าคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ปี 2567 โดยเฉพาะการที่ DSI ส่งเจ้าหน้าที่ 3 รายร่วมเป็นคณะอนุกรรมการสอบสวนกับ กกต. เพื่อสนับสนุนกระบวนการสืบสวนและการขอถ้อยคำจากผู้เกี่ยวข้อง

พ.ต.ต.วรณันชี้แจงว่า ในกรุงเทพฯ DSI รับผิดชอบการส่งหนังสือเรียกและสอบสวนปากคำผู้ต้องสงสัย ส่วนต่างจังหวัดเป็นหน้าที่ของ กกต. และตำรวจท้องที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ DSI ที่ร่วมสอบสวนกับ กกต. ยังทำงานในคดีพิเศษที่ 24/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการเป็นสมาชิกกลุ่มอั้งยี่ อันเกี่ยวโยงกับการได้มาซึ่งตำแหน่ง ส.ว.

เบื้องต้นพบว่ามีเครือข่ายผู้ต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินผิดปกติ รวมกว่า 1,200 ราย โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน ธุรกรรมการเงิน และพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 ถึง 9

DSI ระบุว่าการกระทำที่เข้าข่าย “อั้งยี่” หมายถึงการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย โดยใช้วิธีการที่ปกปิด ซึ่งถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หากมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง จะสามารถนำเข้าสู่กระบวนการเอาผิดฐานฟอกเงินได้

ในขณะนี้ มีผู้ถูกเรียกมาสอบปากคำแล้วประมาณ 70 ราย และอยู่ระหว่างทยอยดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมายที่เหลือ โดยคาดว่าปลายเดือนพฤษภาคมนี้ DSI อาจเริ่มทยอยออกหมายเรียกกลุ่มผู้ต้องสงสัยชุดแรกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา

พ.ต.ต.วรณันระบุว่า จากผู้ต้องสงสัยทั้ง 1,200 ราย อาจมีเพียงบางส่วนที่พบหลักฐานชัดเจนเพียงพอจะดำเนินคดีฟอกเงิน โดยจะพิจารณาเป็นรายกรณี พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงและนำหลักฐานโต้แย้งในชั้นสอบสวน

ทั้งนี้ DSI ย้ำว่าแนวทางการดำเนินคดีแตกต่างจาก กกต. โดย กกต. มุ่งเน้นไปที่ความชอบธรรมในการได้มาซึ่งตำแหน่ง ส.ว. ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสิทธิทางการเมือง ขณะที่ DSI ดำเนินการในส่วนของความผิดอาญา โดยเฉพาะความผิดฐานอั้งยี่และฟอกเงิน พร้อมเตรียมประสาน ปปง. ดำเนินมาตรการทางแพ่งต่อไปในอนาคต

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง