วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:48 น.

การเมือง

"แพทองธาร" ยันยังไม่ยกเลิก"ดิจิทัลวอลเล็ต" แค่รอเศรษฐกิจฟื้นตัวก่อน

วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 13.45 น.

"แพทองธาร" แจงเหตุย้ายงบ 1.57 แสนล้าน จาก "ดิจิทัลวอลเล็ต" ไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ชี้ยังไม่ยกเลิก แค่รอเศรษฐกิจฟื้นตัว เผย "ทักษิณ" ไม่ได้เจอ "ทรัมป์"  ยังไม่รู้เจ้าสัวพลังงานคุยเรื่องใด 

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เฟส 3 ว่า รัฐบาลยังไม่ได้ยกเลิกโครงการนี้ แต่จำเป็นต้องชะลอการดำเนินการ เนื่องจากเกิดปัจจัยแทรกซ้อนจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้รับข้อเสนอจากธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้พิจารณาใช้งบประมาณจำนวน 1.57 แสนล้านบาทจากงบกลาง ไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งด่วนกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศในภาวะวิกฤต เช่น การพัฒนาระบบจัดการน้ำ โดยย้ำว่าไม่ใช่การยกเลิก แต่เป็นการจัดลำดับความสำคัญใหม่

“เราไม่ได้ล้มเลิกโครงการนี้ แต่สถานการณ์เปลี่ยน เราต้องปรับตัว เราอยากใช้เงินก้อนนี้ให้เกิดผลสูงสุดกับประเทศก่อน หากเศรษฐกิจดีขึ้น เราพร้อมกลับมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถูกถามถึงผลกระทบต่อฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย จากการที่นโยบายหาเสียงยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่สัญญาไว้ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ขณะหาเสียง พรรคประเมินแล้วว่าโครงการสามารถทำได้จริง แต่ไม่มีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่า จะเจอปัญหากำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ที่มีอัตราสูงถึง 30-40% ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า เงินงบกลางจำนวน 1.57 แสนล้านบาทดังกล่าว ต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ และเป็นการวางแผนในระยะสั้น ขณะที่นโยบายสู้กับกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างการวางแผนระยะกลางและระยะยาว โดยบางส่วนของเงินดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เป็นรูปธรรมก่อน และจะมีงบเพิ่มเติมซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป

สำหรับกรณีข่าวนักธุรกิจพลังงานรายใหญ่พบอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กาตาร์ นายกรัฐมนตรีเผยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ร่วมพบด้วย และตนไม่ทราบว่าได้มีการหารือเรื่องใด โดยย้ำว่าไม่มีการประสานอย่างเป็นทางการกับรัฐบาล

เมื่อถามว่าจะดึงนักธุรกิจรายใหญ่เข้ามามีบทบาทในการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการตามระบบ และไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ หากมีใครสามารถช่วยเจรจาเพื่อประโยชน์ของประเทศได้ รัฐบาลก็พร้อมให้ความร่วมมือ

“ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหญ่หรือเล็ก ถ้าเกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศ รัฐบาลยินดีร่วมมือทั้งหมด” นางสาวแพทองธารกล่าว.
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง