วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 20:33 น.

การเมือง

ปมร้อนสามเหลี่ยมมรกต! "ภูมิธรรม" ติดตามใกล้ชิด สมาคมการค้าชายแดนเตือนข่าวมั่ว ปลุกปั่น!

วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 13.47 น.

"ภูมิธรรม" ต่อสายตรง "ผบ.ทบ." หลัง "ฮุนเซน" ท้าศาลโลก ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ลามดราม่าโซเชียลฯ ขณะที่ กองทัพบกเผยยังไม่ได้รับรายงานปิดด่านชายแดน ไทย - กัมพูชา ด้าน "รัฐวิทย์"  วอนสื่ออย่าให้ "น้ำผึ้งหยดเดียว"  กลายเป็นไฟลามทั่วชายแดน 

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568  จากกรณี "สมเด็จ ฮุนเซน" โพสต์ ยึด "สามเหลี่ยมมรกต"ท้าไทยขึ้นศาลโลก ดินแดนเขมร และบล็อกเน็ตไทย ไม่ให้เข้าดูเพจฮุนเซน หลังโดนป่วนและเกิดกระแสโซเชียลฯ เขมรต่อต้านสินค้าไทย พันเอกหญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม ซึ่งติดตามคณะนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ไปร่วมประชุมความมั่นคง IIS Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์ เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม ได้มีการโทรศัพท์พูดคุย กับ พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกเมื่อพอจะมีเวลา ต่อจากการประชุมและการพบหารือทวิภาคี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชาอย่างใกล้ชิดรวมถึง สอบถามถึง เรื่องการจะปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาทุกด้านจริงหรือไม่ และขอให้ทางกองทัพบกชี้แจงให้ประชาชนรับทราบด้วย

ขณะที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า เป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด และที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะ ข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน

พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด

ทางด้านนายรัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้สัมภาษณ์กรณีมีข่าวไทยจะปิดช่องทางการค้าชายแดน ด่านกัมพูชาว่า กรณีการนำเสนอของสื่อ อยากทราบว่า ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นออกมาจากใคร ใช่หน่วยงานความมั่นคงหรือไม่ เพราะการนำเสนอโดยไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิง ทำให้คนที่การค้าขายชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะภาคเอกชนเกิดความสับสน ทั้งนี้ อยากให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีข่าวปล่อยในลักษณะนี้ เพราะอาจมีกลุ่มคนไม่หวังดี ที่พยายามปลุกปั่นจนนำไปสู่ปัญหาบานปลาย

นายรัฐวิทย์ ระบุว่า ด่านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-ภาคตะวันออก มีด่านถาวร 6 แห่ง จุดผ่อนปรนกว่า 10 แห่ง ทั้งหมดผู้ประกอบการไทย-กัมพูชา ยังไปมาและส่งสินค้าผ่านช่องทางในแต่ละวัน กรณีการปล่อยข่าวโดยไม่มีข้อมูลอ้างอิง ต้องถามกลับไปว่า มีความจำเป็นเหตุใดถึงจะต้องปิดด่าน เพราะทุกวันนี้ยังค้าขายระหว่างกันได้ดี หรือเป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายความมั่นคงเพื่อยุทธศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่กรณีนี้ไม่ควรทำ

“มูลค่าการค้าชายแดน โดยเฉพาะสระแก้ว จันทบุรี และตราด ส่งออกสินค้ามากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สร้างรายได้มหาศาล ขอบุคคลหรือกลุ่มบุคคล อย่าทำให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว” นายรัฐวิทย์ กล่าวว่า จุดที่เกิดปัญหามีอยู่เพียงจุดเดียว ตลอดแนวชายแดน จึงอยากให้แก้ปัญหาเฉพาะจุดนั้น เพราะจุดอื่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองของทั้ง 2 ประเทศ มีการทำความเข้าใจและพบปะกันบ่อยครั้ง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ในขณะเดียวกันพื้นที่ภาคตะวันออกตอนนี้ มีความต้องการใช้แรงงานกัมพูชาในประเภทกิจการเก็บผลไม้จำนวนมาก และอยู่ระหว่างขั้นตอนในการขอนำเข้า จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องการนำเสนอและขอให้โฟกัสในเฉพาะจุดที่เกิดปัญหา
 

หน้าแรก » การเมือง