วันอังคาร ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:08 น.

การเมือง

"ภูมิธรรม" ปัดแสดงความเห็นปมปรับ ครม. ชี้เป็นอำนาจนายกฯ – ขอมุ่งแก้ปัญหาชายแดน

วันอาทิตย์ ที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 16.06 น.

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยืนยันว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคภูมิใจไทยจะขอยึดโควตาตามข้อตกลงเดิม โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็นในประเด็นนี้ เพราะถือเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล

“ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะหารือกับพรรคร่วม ส่วนตัวผมขอให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาชายแดนเป็นหลักในตอนนี้” นายภูมิธรรมกล่าว

รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงรายนี้ยังระบุว่า การปรับ ครม. ถือเป็นเรื่องปกติในทางการเมือง เพราะสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และหากมีการพูดคุยถึงเวลานั้น แต่ละฝ่ายก็สามารถเสนอความเห็นได้เพื่อให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ไม่ใช่เพราะต้องการยึดครองอำนาจใด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีการหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลในฐานะแกนนำรัฐบาลหรือยัง นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ยังไม่ได้พูดคุย เพราะอำนาจในการตัดสินใจเป็นของนายกรัฐมนตรี ส่วนท่านนายกฯ จะเริ่มพูดคุยหรือไม่ เป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถตอบได้”

ไทยเรียกร้องกัมพูชาลดระดับความรุนแรง ย้ำไม่ได้ปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด - กำหนดวัน-เวลา เปิดปิดด่านเพื่อความปลอดภัย

สถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชา นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวอย่างเป็นทางการถึง 4 มาตรการที่ทางการไทย โดยมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. ที่มอบให้กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองกำลังบูรพา และกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้สถานการณ์แนวชายแดนดังกล่าวเป็นไปตามปกติ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย ย้ำว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่การปิดด่านทั้ง แต่ได้กำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ กำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ การกำหนดมาตรการดังล่าว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และมาตรการดังกล่าว ไม่ใช่การปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด แต่จะพิจารณาดูแลความปลอดภัย และตามลักษณะเฉพาะ และเชื่อว่า การใช้เวทีประชุมเจรจา JBC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน นี้ จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชา ลดระดับความรุนแรงตามแนวชายแดน และกลับเข้าสู่การเจรจา

สำหรับมาตรการที่ไทยพิจารณา เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ตามติ สมช. ดังนี้

1.จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีความจำเป็น เช่น การค้าขาย ขนส่ง แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยจำกัดและเพิ่มระดับความเข้มงวด ในส่วนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงผิดกฎหมาย

2.ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด-ปิดจุดผ่านแดน วัน-เวลาเข้า-ออก

3.ปิดจุดผ่านทางด่านที่มีความเสี่ยง และ

4.ปิดจุดผ่านทางแดนตลอดแนวชายแดน กรณีเกิดสถานการณ์วิกฤต เป็นเพื่อควบคุมสถานการณ์

ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวสายและข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาเปิด-ปิด การจัดเตรียมเอกสารเข้า-ออก โดยให้ กองทัพภาคที่1 ดูแลชายแดนฝั่งจ.สระแก้ว กองกำลังสรุนารี ดูแลชายแดนฝั่งจ.อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ดูแลชายแดนจันทบุรี และตราด

นอกจากนั้น สถานทูตไทยประจำกรุงพนมเพญ ประเทศกัมพูชา ได้มีข้อมูลกำลังจุดผ่านแดน เช่น จุดผ่านแดน-จุดผ่อนปรน อรัญประเทศ-ปอยเปต เปิด 08.00-16.00 น. ห้ามคนไทยที่จะไปเล่นการพนัน
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง