"บัวขาว" ให้กำลังใจทหารไทย! ทบ. เปิดช่องทางการประสานส่งสิ่งของ เป็นกำลังใจให้ทหารในพื้นที่ชายแดน  ยืนยันหน่วยทหารไม่ขาดแคลน และไม่มีนโยบายขอรับการบริจาค  "รอง มทภ.2"  เผยเบื้องหลังเจรจากับทหารกัมพูชา ยอมถอนกำลังพื้นที่ช่องบก "ชนะโดยไม่ต้องรบ" 

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568    ตามที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่าหน่วยทหารกองทัพบก ขาดแคลนสิ่งของในการปฏิบัติภารกิจและมีการขอรับการบริจาคนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยหน่วยทหารในทุกพื้นที่ มีความพร้อมของกำลังพล สิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ สามารถดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมได้ในทันที ไม่ได้มีความขาดแคลน และไม่ได้มีนโยบายขอรับการบริจาคตามที่ปรากฏข่าวแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ภาคประชาชนและส่วนราชการมีความประสงค์จะส่งกำลังใจและให้การสนับสนุนสิ่งของ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภคแก่หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน ซึ่งปัจจุบันมีผู้แจ้งความประสงค์เข้ามาเป็นจำนวนมาก กองทัพบกได้เปิดช่องทางการติดต่อประสานงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับการสนับสนุนดังกล่าว รวมทั้งเป็นจุดในการรวบรวมและคัดแยกสิ่งของ ก่อนพิจารณานำส่งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยได้กำหนดจุดประสานงานจำนวน 5 จุด ดังนี้ 
   - กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา โทร.044-248-948 
   - อบต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โทร.093-081-9263
   - อบต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โทร.082-115-1852
   - ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ ต.ห้วยตึ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โทร.081-117-8009
   - อบต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โทร.093-394-3951 

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ส่วนกลาง สามารถติดต่อผ่านกรมกิจการพลเรือนทหารบก เขตพระนคร กทม. โทร.02-297-7594 ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

นอกจากที่กองทัพบกได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากภาคประชาชนแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน อาทิ บริษัท AIS และบริษัทไทยคม ที่ได้สนับสนุนด้านการสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน รวมถึงบริษัทไปรษณีย์ไทย ที่ให้การสนับสนุนด้านการขนส่ง โดยกองทัพบกขอขอบคุณในน้ำใจและกำลังใจจากทุกภาคส่วน และพร้อมส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามลำดับความจำเป็นโดยเร็ว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพล ในการปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยและดูแลประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเต็มขีดความสามารถ       

"บัวขาว" ให้กำลังใจทหารไทยปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา
 
ขณะที่กองบัญชาการกองทัพบก ร้อยเอกสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว นักมวยชื่อดัง ร่วมกิจกรรมของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน โดยพลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานมอบรางวัลนักศึกษาวิชาทหารที่ทำประโยชน์แก่สังคมจำนวน 5 นาย และแถลงแผนการฝึกนักศึกษาวิชาทหารปี 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก

ร้อยเอกสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ระบุถึง กระแสความสนใจในโซเชียลมีเดียที่มีการพูดถึงชาวกุย หรือส่วย จังหวัดสุรินทร์ ชนพื้นเมืองที่มีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ไทย-กัมพูชา ว่า ในฐานะที่บัวขาว เป็นคนเชื้อสายกุยโดยกำเนิด ตั้งแต่พ่อแม่บรรพบุรุษ เรียกกันว่า คนส่วย บางคนก็เรียกว่ากุย  แต่คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ทราบว่า คนเชื้อสายกุย มีที่มาอย่างไร ซึ่งคนกุยก็คือคนส่วย เป็นชนเผ่าอีกชนเผ่าหนึ่ง ที่สืบเชื้อสายต่อเนื่องกันมา จึงถือเป็นความภาคภูมิใจ ที่ได้สืบทอดภาษา ซึ่งเป็นภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนและขึ้นชื่อในเรื่องความสามารถในการเลี้ยงช้าง 

บัวขาว ยังได้ให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเป็นภาษากุยหรือภาษาส่วยมีความหมายว่า "ขอเป็นกำลังใจให้ทหารในการปฏิบัติหน้าที่ตรงนั้นให้เต็มที่ มีกำลังใจที่แข็งแรง และเราจะเป็นกำลังใจให้กันตลอดไป สู้ๆครับ"

"รอง มทภ.2"  เผยเบื้องหลังเจรจากับทหารกัมพูชา ยอมถอนกำลังพื้นที่ช่องบก "ชนะโดยไม่ต้องรบ" 

พล.ต.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 (รอง มทภ.2) ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ บนเฟซบุ๊กส่วนตัว Mammoth S Nutt ถึงเบื้องหลังการเจรจากับทหารพัมพูชา เพื่อลดความตรึงเครียดชายแดนพื้นที่ช่องบก จ.อุบลฯ จนบรรลุผล ฝ่ายกัมพูชายอมปรับลดถอนกำลัง เมื่อ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า ด้วยความเคารพ….

1. ขอขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ สื่อมวลชนทุกสำนักที่นำเสนอข่าวผมเป็นผู้เจรจาเป็นผลให้มีการปรับกำลังไม่มีการรุกล้ำอธิปไตยพื้นที่ช่องบก จนรู้สึกว่าออกสื่อมากเกินไป
2. งานนี้ผมทำเองไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากผู้บัญชาการทหารบก จากแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งผมต้องขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นที่ไว้วางใจให้ผมทำงานนี้
3. ผมติดตามสถานการณ์มาเป็นระยะ และเห็นว่าหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้จะนำไปสู่การปะทะ จะนำมาซึ่งการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ทหารไม่สามารถเลือกสนามรบได้ แต่การชนะโดยที่ไม่ต้องรบล้ำเลิศกว่า ซึ่งเมื่อผมได้รับการประสานเพื่อพูดคุยที่จะ “ไม่รบ” ผมจึงนำเรียน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง มทภ.2 ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผม ท่านเห็นด้วยและอนุญาตพร้อมมอบแนวทางการเจรจาให้ ซึ่งผมก็ได้นำแนวทางนั้นไปเจรจาจนบรรลุผล
4. ผมทำไปด้วยหน้าที่ จิตสำนึกของความเป็นทหารอาชีพ ไม่ได้หวังผลตอบแทน ผมกำเนิดจากลูกชาวนาเติบโตมามีโอกาสได้ทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองก็เป็นความภาคภูมิใจสูงสุด มิได้มีความทะเยอทะยานใดๆ
5. ขอให้คนไทยเราสามัคคี มัดรวมใจ ร่วมกันคิด ช่วยกันทำเพื่อดำรงความเป็นชาติไทยส่งต่อให้ลูกหลาน เมื่องานส่วนรวมสำเร็จก็เป็น “ผลงาน” ของทุกคน