เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. กล่าวถึงกรณีที่มีเอกสารเผยแพร่ปรากฎรายชื่อ 21 สส. พรรค รทสช. เสนอนายกรัฐมนตรี ปรับคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค รทสช. เนื่องจากไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานนั้น ว่า ส่วนตัวรับรู้ข่าวพร้อมกับทุกคนเมื่อคืนนี้ และได้เช็ก สส. ที่อยู่ในรายชื่อ ซึ่งยอมรับว่า เซ็นลายเซ็นจริง แต่เป็นในกรณีอื่น ไม่ใช่การเซ็นชื่อ เพื่อประกอบการยื่นหนังสือ

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกต ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นการยื่นเรื่อง เพื่อสกัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับกฎหมายพลังงาน 3 ฉบับ เป็นเรื่องที่สามารถตั้งข้อสังเกตได้ เพราะกฎหมายที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค เสนอนั้น อยู่ในขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์ หมายความว่า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน ทั้งประชาชน หรือ กลุ่มไหนก็ตาม ได้เห็นร่างกฎหมายเหล่านี้แล้ว และรู้ว่าจะทำอะไรบ้าง จึงเกิดข้อสันนิษฐาน ว่า เป็นการตัดแข้งตัดขา เพื่อไม่ให้กฎหมายเหล่านี้ผ่านหรือไม่ โดยหลังจากนี้จะปรึกษากรรมการบริหารพรรค

นางสาวศศิกานต์ ยังกล่าวถึงเหตุผลในเอกสารที่อ้างว่า เป็นเพราะรัฐมนตรีของพรรค รทสช. ไม่มีคุณสมบัติ และผลงานเป็นที่ประจักษ์ ว่า นายพีระพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีคนแรก ๆ ที่งัดกับอะไร ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ขณะที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ก็กำลังงัดกับจีนเทา จึงอยากถามว่า ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์หมายถึงอะไร ขอให้รอฟังสัญญาณจากหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ว่า จะเรียกประชุม สส.ในประเด็นนี้หรือไม่ และตรวจสอบ ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงเอกสารที่พิมพ์แล้วแจกให้สื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงสมรภูมิข่าวลือ จึงอยากขอให้รับสาร อย่างมีวิจารณญาณ

สำหรับกฎหมายพลังงานที่นายพีระพันธุ์กำลังร่างเมื่อไหร่จะออกมา เพราะเหมือนเป็นการจับประชาชนเป็นตัวประกันหรือไม่ นางสาวศศิกานต์ ยืนยันว่า ไม่ใช่เพราะการออกกฎหมายมีหลายขั้นตอน การร่างกฎหมายนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่รอเข้าสภาเพื่อพิจารณา ซึ่งอยู่เป็นวาระแรก ๆ เมื่อเปิดสมัยประชุม พร้อมย้ำด้วยว่า จากการพูดคุยกับ สส. ที่ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหว และลงชื่อ ทุกคนต่างให้กำลังใจนายพีระพันธุ์ ให้สู้เพื่อประชาชน รวมถึง สส. พรรคอื่น ที่ออกมาให้กำลังใจ

ส่วนที่อ้างว่า หนังสือเรียกนายพีระพันธุ์ อย่างที่กรณีมีรูปติดในถุงยังชีพ และกรณีถือหุ้นบริษัทเอกชน เป็นเฟคนิวส์ แต่ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ส่วนตัวตอบไม่ได้ แต่ทราบว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพีระพันธุ์ได้ส่งคนไปสอบถาม ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ส่งตัวแทนออกมายืนยันว่า ไม่มีการออกหมายเรียก ส่วนเอกสารที่ป.ป.ช. ออกมาก็ต้องไปเช็คกับทาง ป.ป.ช. ว่า เป็นเอกสารจริงหรือไม่ และข้อเท็จจริงถูกต้องหรือไม่

หากมีการแอบอ้างเอกสาร เพื่อยื่นเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีจริง จะขับ สส. ออกจากพรรคหรือไม่ นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า ต้องไปดูกฎระเบียบของพรรค แต่เรื่องนี้เป็นเพียงความคิดของ สส. กลุ่มหนึ่งเท่านั้น ก็ขึ้นอยู่กรรมการบริหารพรรค ว่า จะทำอย่างไร พร้อมย้ำว่านายพีระพันธุ์ ไม่เคยหนีสื่อ แต่ใช้เวลาก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมตัวหารือในที่ประชุม