วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568 02:42 น.

การเมือง

กระทรวงแรงงาน “พิพัฒน์” แสดงความห่วงใยแรงงานไทย มอบ “อารี” รับร่างตัวประกันจากอิสราเอลกลับบ้านเกิด ดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่

วันพุธ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 17.17 น.

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์      รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานรับร่างแรงงานไทยที่เป็นตัวประกันรายสุดท้ายที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล 1 ราย พร้อมร่วมวางพวงหรีดแสดงความอาลัย โดยมี 
น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ   นางเดวอรา ดอร์สแมน ยาร์โคนี รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต อิสราเอล  และผู้บริหารของกระทรวงแรงงาน ร่วมพิธี ณ บริเวณอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
 
นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ผมพร้อมด้วย ท่านรองปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนของกระทรวงแรงงานในการมารับร่างแรงงานไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้ส่งกลับมา โดยถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 14.00 น. พร้อมร่วมวางพวงหรีดของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อแสดงความอาลัย
 
นายอารี กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน หรือ 5 เสือแรงงานในพื้นที่จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของแรงงานที่เสียชีวิต ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์แก่ครอบครัวทราบ พร้อมอำนวยความสะดวกในการประสานเกี่ยวกับขั้นตอนและเอกสารต่างๆ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์โดยเร็วที่สุดต่อไป ขณะเดียวกันในวันนี้ ทันทีที่ร่างของแรงงานไทยกลับถึงภูมิลำเนา 5 เสือแรงงานในพื้นที่จังหวัดแพร่ ก็จะรอรับร่างและอำนวยความสะดวกพร้อมนำพวงรีดของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ และท่านบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ไปวางหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย และเป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพด้วย

ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยากรณีของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยชาวจังหวัดแพร่ ที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล เมื่อเดือนตุลาคม 2566 นั้น จากการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ที่ทายาทจะได้รับ มีดังนี้   
1) สถาบันประกันภัยอิสราเอล ปัจจุบันทายาทยื่นขอรับเงินสิทธิประโยชน์ (กรณีตัวประกัน) และได้รับเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้รับยืนยันการเสียชีวิตทางสถาบันประกันภัยอิสราเอลฯ จะเปลี่ยนเป็นสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตแทน และทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท / ค่าใช้จ่ายในการฝังศพ เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD) /เงินช่วยเหลือการเป็นหม้าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท /เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันประกันภัยอิสราเอล
          2) กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรมการจัดหางาน กรณีเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทได้รับเงินสงเคราะห์เหมาจ่าย 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร/หลักฐาน
          3) สิทธิจากกองทุนประกันสังคม ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้ประกันตนมาก่อน มีสิทธิได้รับเงินชราภาพ 64,202.18 บาท ไม่รวมดอกผล
          4) เงินค่าจ้างค้างจ่าย / เงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (ปิซูอิม) ซึ่งในส่วนนี้ฝ่ายแรงงานฯ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ อยู่ระหว่างการติดตาม

          “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อญาติพี่น้องและครอบครัวของพี่น้องแรงงานไทยที่สูญเสีย กระทรวงแรงงาน โดยท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงแรงงาน ขอให้ ความมั่นใจว่าจะดูแลสิทธิประโยชน์ของแรงงานที่เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์พึงได้ตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด สำหรับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ขอให้แจ้งข้อมูลที่ด่านตรวจคนหางานก่อนเดินทางออก นอกประเทศทุกครั้ง เพื่อกระทรวงแรงงานจะได้ทราบข้อมูล ติดตาม และดูแลสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ ทั้งยังเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เช่นนี้อีก หรือโทรได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506” นายอารี กล่าวท้ายสุด
 
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เหตุการณ์ครั้งนี้ พบว่า  มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 42 รายนำร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทยแล้ว 39 ราย รวมวันนี้ด้วยอีก 1 รายเป็น 40 รายผู้บาดเจ็บ 22 ราย เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 19 ราย อีก 3 รายออกจากโรงพยาบาลแล้ว และทำงานอยู่ต่อในอิสราเอล  มีแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ทั้งหมด 31 ราย ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 28 ราย
ซึ่งตัวประกันอีก 2 ราย ทางการอิสราเอลได้ประกาศยืนยันการเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่พบร่าง กรณีของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยชาวจังหวัดแพร่ที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลนั้น เป็น 1 ใน แรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และทางการอิสราเอลพบร่างและทางสถานทูตฯ ส่งกลับมายังประเทศไทยในวันนี้
 
สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลขณะนี้ ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลประมาณ 40,000 คน แยกเป็น 
แรงงานถูกกฎหมายประมาณ 34,000 คน  ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคเกษตร 30,000 คน ภาคก่อสร้าง 2,000 คน ภาคอุตสาหกรรม 500 คน พ่อครัว แม่ครัว 300 คน ขณะนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้มีการจัดส่งแรงงานไปทำงานที่อิสราเอลอย่างต่อเนื่องเดือนละประมาณ 1,200 คน
 

หน้าแรก » การเมือง