วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568 22:23 น.

การเมือง

“ชัชวาล ไทยสร้างไทย” ตั้งข้อสังเกต รัฐใช้งบ 1.57 แสนล้านไม่ตอบโจทย์ประชาชน เสนอจัดงบใหม่ แก้หนี้นอกระบบ- ช่วยภาคเกษตร ฟื้น SME-รีสกิล แรงงาน  

วันพฤหัสบดี ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 14.34 น.

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568  นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณ ปี2569 กล่าวถึงแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล วงเงิน 157,000 ล้านบาทที่ถูกโยกมาจากงบแจกเงินหมื่น โดยตั้งข้อสังเกตว่า การใช้งบในลักษณะเดิม เช่น การอบรมอาชีพ หรือจัดกิจกรรมที่กินงบจัดอีเวนต์ การขุดลอกคลอง การสร้างถนน อาจไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง เพราะปัญหาหลักในขณะนี้คือความยากจนและหนี้นอกระบบที่เพิ่มสูงขึ้น  

แต่หากเป็นการใช้งบลงทุนเพื่อภาคการเกษตร เช่นการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อความมั่นคงทางการเกษตร โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ โดยเฉพาะโครงการที่สามารถผันน้ำจากพื้นที่น้ำไปยังพื้นที่แห้งแล้ง เช่น โครงการผันน้ำชีลงสู่ทุ่งกุลาร้องไห้ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่เกษตรกรรม และสร้างความมั่นคงทางน้ำในระยะยาว การลงทุนในลักษณะนี้ไม่ใช่เพียงแค่การก่อสร้าง แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ให้เกษตรกรมีรายได้อย่างยั่งยืน

นายชัชวาลกล่าวด้วยว่า วันนี้ความหิวโหยของประชาชนคือเรื่องจริง ไม่ใช่แค่จัดอบรมหรือเวิร์กช็อปที่ไม่รู้ว่าจะไปต่อยอดตรงไหน สุดท้ายก็กลายเป็นแค่งบจัดอีเวนต์เท่านั้น พร้อมย้ำว่า ไม่ได้เห็นด้วยกับการแจกเงิน แต่หากเปรียบเทียบกันแล้ว การแจกเงินโดยตรงให้ประชาชนยังเป็นวิธีที่เข้าถึงประชาชนได้จริงมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการใช้งบไปกับโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือ แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ 

นายชัชวาล ได้เสนอทางเลือกการใช้จ่ายงบ 157,000 ล้านบาทว่าควรนำมาจัดสรรในสามส่วนดังนี้

1.จัดตั้งกองทุนเครดิตประชาชน 50,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งข้อมูลจากธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่ามีมากถึง 3 ล้านคน กองทุนนี้จะให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 1% ต่อเดือน เพื่อนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเป็นทุนสำหรับตั้งตัว พร้อมยกตัวอย่างว่าหากกู้ 50,000บาท จากเดิมจะต้องชำระดอกเบี้ยเดือนละหมื่นบาท แต่หากกู้จากกองทุนเครดิตประชาชน ก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งจะทำให้คนลืมตาอ้าปากได้จริงๆ

2.จัดสรรงบสำหรับ สนับสนุนผู้ประกอบการ SME 100,000 ล้านบาท
ลงทุนโดยตรงในการช่วยเหลือธุรกิจรายย่อย ไม่ใช่แค่การจัดโชว์หรือกิจกรรมสัญลักษณ์
งบประมาณนี้ควรนำไปเสริมความรู้ การตลาด การบริหาร และเงินทุนเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและสามารถจ้างงานได้ต่อเนื่อง

3.งบรีสกิล-อัปสกิล ให้กับประชาชน 7,000 ล้านบาท
แจกเป็นคูปองให้เยาวชน คนทำงาน และผู้สูงอายุ เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเสริมทักษะใหม่ ผ่านมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ เน้นการสร้างบุคลากรที่พร้อมสำหรับโลกยุคใหม่ เหมือนที่สิงคโปร์และเวียดนามกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

นายชัชวาล ยังตั้งข้อสังเกตว่าการที่รัฐบาลเปลี่ยนท่าทีจากการผลักดันโครงการ "แจกเงินดิจิทัล" มาเป็นการใช้งบเพื่อการก่อสร้าง หรือจัดกิจกรรมที่กินงบจัดอีเวนต์ การสร้างถนน การสร้างอาคารแบบเดิมนั้น อาจเป็นการดำเนินการที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง

ดังนั้นจึงขอตั้งคำถามไปยังผู้นำรัฐบาลว่า รัฐบาลมีความจริงใจและสุจริตใจจริงหรือไม่ และสอง รู้ปัญหาและความต้องการของประชาชนจริงหรือไม่ ซึ่งตนในฐานะกรรมาธิการงบประมาณ 2569 จะทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลได้ใช้เม็ดเงินของประชาชนอย่างคุ้มค่า ตรงจุด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง

หน้าแรก » การเมือง