การเมือง
สำนักงานกกต.เผยแพร่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องวินิจฉัยกรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเผยแพร่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ได้จัดทำข่าวคดีที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 3 คำสั่ง ดังนี้
1. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่ 36/2568 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายณฐพร โตประยูร และคณะ ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาของคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และให้มีคำสั่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งและสมาชิกวุฒิสภาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งรับคำร้อง
นายณฐพร โตประยูร และคณะ (ผู้ร้องที่ 1 ถึงผู้ร้องที่ 10) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า ถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้อง) ในการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เริ่มกระบวนการจนถึงการประกาศรับรองผลไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกฎหมาย หลักนิติธรรม และกระทำการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนและต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 5มาตรา 107และมาตรา 108
ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติมและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏว่าคำร้องเรียนที่ผู้ร้องยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น เป็นคำร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) โดยมิใช่การยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 อีกทั้งผู้ร้องอ้างว่าตนถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่ปรากฏว่าผู้ร้องไม่ใช่บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงอันเกิดจากการกระทำของผู้ถูกร้อง กรณีไม่ต้องด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 46 วรรคหนึ่ง ประกอบกับการกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย หากผู้ร้องเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพอาจใช้สิทธิทางศาลได้
ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 25 วรรคสาม ส่วนกรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่เริ่มกระบวนการจนถึงการประกาศรับรองผลใช้บังคับมิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 นั้น รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47 (2)ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ทั้งนี้ นายณฐพร โตประยูร และคณะ (ผู้ร้อง) ได้ยื่นขอคัดค้านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 36/2568เมื่อวันที่9 เมษายน 2568 ที่สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และขอให้ทบทวนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว รวมทั้งขอให้มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องต่อเนื่องและเอกสารประกอบ มีลักษณะเป็นการขออุทธรณ์คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ไม่มีบทบัญญัติให้บุคคลมีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยหรือคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ร้องไม่อาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
2. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่ 48/2568 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ไม่รับคำร้องของพลโท ยอดชัย ยั่งยืน ซึ่งร้องขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาของคณะกรรมการการเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญ และให้ประกาศให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นโมฆะ
พลโทยอดชัยยั่งยืน (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา213ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า ตนเป็นผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพจากการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้อง) ที่ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามหนังสือรับรองความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์หรือทำงานในกลุ่มที่สมัคร (สว. 4)อีกทั้งการที่ผู้ถูกร้องออกประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การมีลักษณะอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน ตามมาตรา 11วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ลงวันที่ 11เมษายน2567 กำหนดให้ลูกจ้างในหน่วยงานของรัฐสามารถลงสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภากลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคงได้ ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในกลุ่มที่สมัคร การกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรมและเป็นโมฆะ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 มาตรา 108 และมาตรา 224 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)
ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏว่าการกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายหากผู้ร้องเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพผู้ร้องอาจใช้สิทธิทางศาลได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา25วรรคสามส่วนกรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นโมฆะนั้นรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561มาตรา47 (2) ซึ่งมาตรา46วรรคสามบัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาดังนั้นผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา213ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
3. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่ 51/2568 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่พลตำรวจโท คำรบ ปัญญาแก้ว และคณะ ซึ่งมีรายชื่อเป็นสมาชิกวุฒิสภาสำรอง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา82ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาของพลตำรวจตรีฉัตรวรรษแสงเพชรและคณะสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา111 (7) ประกอบมาตรา185 (1)หรือไม่
พลตำรวจโทคำรบปัญญาแก้วและคณะ (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา๘๒ว่าพลตำรวจตรีฉัตรวรรษแสงเพชรและคณะ (ผู้ถูกร้อง) ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจำนวน92คนได้ร่วมกันลงลายมือชื่อและยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภาขอให้ส่งคำร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อขอให้พิจารณาไต่สวนและดำเนินการกับพันตำรวจเอกทวีสอดส่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและพันตำรวจตรียุทธนาแพรดำอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกรณีเสนอเรื่องการขออนุมัติให้การดำเนินคดีความผิดฐานอั้งยี่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นคดีพิเศษและการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการคดีพิเศษกับพวกรวม11คนกรณีสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา209และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นคดีพิเศษอีกทั้งการเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรมเวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและพันตำรวจเอกทวีสอดส่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา170วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา160 (4) และ (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่8/2568)เป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งของการเป็นสมาชิกวุฒิสภากระทำการอันมีลักษณะเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองในการปฏิบัติราชการหรือดำเนินการในหน้าที่ประจำของข้าราชการหรือของหน่วยงานราชการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา185 (1)
ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่าผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา82ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561 มาตรา7 (5) นั้นรัฐธรรมนูญมาตรา82วรรคหนึ่งบัญญัติให้สิทธิแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภามีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งแห่งสภานั้นสิ้นสุดลงเพื่อให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้องส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดีดังกล่าวได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา82วรรคสี่เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏว่าผู้ร้องเป็นเพียงผู้มีรายชื่อเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (บัญชีสำรอง) มิได้มีสถานะเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญและมิได้เป็นผู้มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้แต่อย่างใดกรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา82วรรคหนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญได้โดยสแกน QR Code ด้านล่าง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือสายด่วน 1444
คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 36/2568ได้ โดยสแกน QR Code ด้านล่าง
คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 48/2568 ได้โดยสแกน QR Code ด้านล่าง
คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 51/2568 ได้โดยสแกน QR Code ด้านล่าง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- เมตตาธรรม! พระครูโสภณธรรมสโรช มอบแผ่นซีเมนต์ให้กับทหารชายแดน 13 มิ.ย. 2568
- “นฤมล-อิทธิ“สั่ง บุกโกดังบางขุนเทียน ยึด อาหารสัตว์เลี้ยงเถื่อนขายออนไลน์ 59 รายการ มูลค่ากว่า 5.9 ล้านหลัง ปชช.แจ้งเบาะแสผ่าน DLD 4.0 13 มิ.ย. 2568
- บรอ.12 บุกนอร์เวย์–เดนมาร์ก ศึกษาความมั่นคง–สัมพันธ์ 400 ปี 13 มิ.ย. 2568
- "วราวุธ" เผย ทีม พม.ตราด ลงพื้นที่ชายแดนร่วมติดตามสถานการณ์-ให้กำลังใจ-สำรวจแนวทางการอพยพคนกลุ่มเปราะบาง 13 มิ.ย. 2568
- "ผบ.ทบ.-แม่ทัพภาค 2" ลงพื้นที่ช่องบก รอดูสถานการณ์ประชุมเจบีซี 14 มิ.ย. นี้ 13 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"นฤมล-อิทธิ" มอบกรมปศุสัตว์ ประสานตำรวจ ปคบ.บุกตรวจห้องเย็นย่านเมืองสมุทรสาคร จับขาไก่เถื่อนกว่า 346 ตัน 20:29 น.
- มทภ.2 สั่งเข้ม เปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ห้ามส่งออกยุทโธปกรณ์-งดจ่ายไฟ หากอีกฝ่ายเสริมกำลังทหาร 20:07 น.
- "สาธิต" ขอบคุณ "กัมพูชา-ฮุนเซน" ทำให้กองทัพไทยตื่นตัว-บางคนได้รู้ "ทหารมีไว้ทำไม" 19:49 น.
- พม.ขานรับนโยบายช่วยกลุ่มเปราะบาง 7 จว.ชายแดนรับมือศึกไทย-กัมพูชา 19:35 น.
- "บัญชา" ร่วมประชุมคณะกรรมการชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านฯ 17 จังหวัดภาคเหนือ ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน ด้วยความอดทน มุมานะ 18:31 น.