รัฐบาลไทยยืนยันยังไม่ปิดจุดผ่านแดนถาวร หลังหารือกับกัมพูชาลดแรงกดดันชายแดน พร้อมใช้มาตรการควบคุม 4 ขั้นตอน เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน 

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการ เสียงจากใจ...ไทยคู่ฟ้า ช่อง NBT2HD ถึงการดำเนินการด้านความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางหารือร่วมกับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของกัมพูชา ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเสนอแนวทางลดความตึงเครียดจากเหตุการณ์เผชิญหน้าทางทหารบริเวณต้นพญาสัตบรรณ ต่อมา วันที่ 6 มิ.ย. นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้มีจัดประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมีข้อเสนอให้ใช้มาตรการควบคุมชายแดน 4 ขั้นตอน เริ่มจากจำกัดการเข้า–ออกเฉพาะกรณีจำเป็น และจำกัดเวลาเปิดด่าน เช่น ด่านปอยเปตที่ปรับเหลือ 08.00-16.00 น. พร้อมขอให้กระทรวงกลาโหมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการ ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นมา เริ่มมาตรการควบคุมขั้นที่ 1 และ 2 แต่ยังไม่มีการปิดด่านถาวร ส่วนการปิดบางช่องทางเป็นช่องทางธรรมชาติที่อยู่ภายใต้โครงการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 8 มิ.ย. ฝ่ายกัมพูชาติดต่อมาขอร่วมปรับกำลังในพื้นที่ และขอให้สองประเทศร่วมมือสร้างบรรยากาศที่ไม่สร้างความเกลียดชังระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายไทยตอบรับ พร้อมยืนยันใช้แนวทางสันติเป็นหลักผ่านกลไกการหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า รัฐบาลยังคงมาตรการควบคุมตามแนวชายแดนต่อไป โดย สมช. จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ขึ้นอยู่กับท่าทีและพัฒนาการของฝ่ายกัมพูชา โดยย้ำว่าทุกมาตรการที่ดำเนินการไม่ได้มุ่งกดดัน แต่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ