วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 07:09 น.

การเมือง

เขมรโวย! สระแก้วเพิ่มมาตรการกดดัน ห้าม"จยย.-รถเข็น2ล้อ" จากกัมพูชาเข้าไทย

วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 10.35 น.

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568  ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากที่ จนท.ทหารพราน ร้อย ทพ.1201 ร่วมกับ จนท.ด่านศุลกากรอรัญประเทศ และ ตม.จว.สระแก้ว ทำการเปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึกฯเวลา 08.00 น.และ จนท.กัมพูชาจะเปิดประตูด่านพรมแดนปอยเปต ฝั่งกัมพูชาในเวลา 09.00 น.โดยเปิดช้ากว่าฝั่งไทย 1 ชม. ซึ่งจากการสังเกตการณ์พบว่าวันนี้บริเวณหน้าประตูด่านพรมแดนปอยเปต ฝั่งกัมพูชาซึ่งเคยมีรถ จยย.และรถเข็นสองล้อของชาวกัมพูชามาจอดรอเพื่อข้ามฝั่งเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากนั้น วันนี้กลับมีปริมาณน้อยมาก

ทั้งนี้เนื่องจาก กองกำลังบูรพาได้เพิ่มมาตรการกดดันกัมพูชา โดยตั้งแต่วันนี้ที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 09.00 น.จะไม่อนุญาตให้ รถ จยย.ทะเบียนกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทยรวมถึงรถเข็นสองล้อของชาวกัมพูชาก็ห้ามนำเข้ามาฝั่งไทยจะอนุญาติให้เฉพาะคนเดินเท้าและรถยนต์ทะเบียนกัมพูชาสามารถข้ามเข้ามาฝั่งไทยได้ ซึ่ง จนท.ร้อย ทพ.1201 ได้ประสานแจ้งไปยัง จนท.ฝั่งกัมพูชาให้แจ้งชาวกัมพูชาที่จะเข้าประเทศไทยทราบ

 ต่อมาเวลา 09.00 น.หลังจาก จนท.กัมพูชาเปิดด่านพรมแดนปอยเปต ร.อ.อาคม มงคลนำ ผบ.ร้อย ทพ.1201 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก..ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก และ จนท.ด่านศุลกากรอรัญประเทศ ได้นำกำลังมาร่วมกันตรวจคัดกรองบริเวณด่านพรมแดนคลองลึก โดยไม่อนุญาตให้ชาวกัมพูชาขับขี่รถ จยย.และเข็นรถเข็นสองล้อเข้ามาในประเทศไทย ตามนโยบายเพิ่มมาตรการกดดันของกองกำลังบูรพา แต่ยังอนุญาตให้รถยนต์กัมพูชาและชาวกัมพูชาเดินเท้าเข้ามาในประเทศไทยได้ตามปกติ และจากมาตรการกดดันดังกล่าวทำให้ชาวกัมพูชาบางคนเกิดความไม่พอใจและโวยวาย จนท.ต้องเข้าไปพูดคุยกับ จนท.กัมพูชาให้แจ้งถึงมาตรการดังกล่าวให้ชาวเขมรทราบ จึงทำให้ชาวเขมรสงบลงนำรถ จยย.ไปเก็บแล้วเดินเท้าเข้าไทยเพื่อไปค้าขายในตลาดโรงเกลือ

ทั้งนี้ ร.อ.อาคม มงคลนำ ผบ.ร้อย ทพ.1201 เผยว่ากองกำลังบูรพาได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 23 มิ.ย.68 ได้กําหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุด บริเวณ พื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทําผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน(ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก,จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน,จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ ทั้งนี้ ให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 09.00 น.วันที่ 23 มิ.ย. 68 เป็นต้นไป จนกว่า กกล.บูรพา จะแจ้งเปลี่ยนแปลง

ด่านศุลกากรช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ เปิดตามปกติ แต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่เปิดด่านเข้าออก
 
ด่านศุลกากรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า ฝ่ายไทยยังคงเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำตามปกติ ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. ตามประกาศเดิมอย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชายังไม่เปิดด่านฯ ในฝั่งของตน โดยได้แจ้งให้ผู้ที่จะเดินทางผ่านเข้าออกระหว่างประเทศ ให้ไปใช้บริการที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์แทน

ทั้งนี้ การดำเนินการของฝ่ายไทยยังคงเป็นไปตามแนวทางเดิม เนื่องจากยังไม่มีข้อสั่งการเพิ่มเติมจากกองทัพ หรือจากทางจังหวัดศรีสะเกษ แต่อย่างใดสถานการณ์ยังอยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลงและแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป

เขมรโวยเจ้าหน้าที่ประจำด่านฝั่งกัมพูชา หลังปิดด่านตัวเองทำตกค้างฝั่งไทยจำนวนมาก !
 
เวลา 08.00 น.(23 มิ.ย.) ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยเปิดด่านข้ามแดนตามปกติ ในเวลา 08.00 น. ทำให้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางโดยรถยนต์ของกัมพูชามาจอดที่จุดผ่านแดน พร้อมทำเอกสารข้ามแดนที่หน้าด่าน

แต่เมื่อถึงเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา ไม่เปิดประตูข้ามแดนด่านช่องจวม ตรงข้ามกับด่านช่องสะงำ เนื่องจากได้รับคำสั่งให้ปิดด่านแห่งนี้เป็นการถาวรตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทำให้มีชาวกัมพูชา จำนวนมากไปรวมตัวที่ประตูข้ามแดนฝั่งกัมพูชา พร้อมสอบถามสาเหตุจากเจ้าหน้าที่กัมพูชา เหตุใดถึงไม่เปิด บางคนเริ่มบ่น และเริ่มโวยเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา แล้ว

สำหรับ ชาวกัมพูชา ที่ไม่สามารถเดินทางข้ามด่านช่องจวม ของกัมพูชา กลับไปยังประเทศตัวเองได้ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่เดินทางเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภค และบริโภค รวมถึงผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามารับการรักษาตัวและพบแพทย์ ตามกำหนดในประเทศไทย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา

ขณะที่บริเวณด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้าจากฝั่งไทย มาจอดรอเข้าคิว และทำเอกสารข้ามแดน แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้  ด่านแห่งนี้ ในช่วงมีสถานการณ์จะเปิดให้ข้ามแดน สัปดาห์ละ 3 วัน คือ จันทร์-พุธ-ศุกร์ ฝั่งไทยเปิดเวลา 08.00 น.-15.00 น. ฝั่งกัมพูชา เปิดด่านเวลา 09.00 น.-15.00 น.

"ด่านช่องจอม" รถสินค้าไม่กล้าข้ามชายแดน หวั่นเขมรตลบหลังสั่งปิดกลับไม่ได้  

เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ทำการเปิดประตูด่าน ฝั่งกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังจากไทยเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยพบว่าชาวกัมพูชาที่รอข้ามแดนขนของใช้ส่วนตัวกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง

จากการสอบถามชาวกัมพูชา บอกว่า พากันข้ามแดนมาซื้อสิ่งของใช้จำเป็น ที่บริเวณตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เพราะเคยซื้อของที่ฝั่งไทยเป็นประจำมากว่า 20 ปี โดยส่วนใหญ่พบว่าชาวกัมพูชาใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถจักรยานยนต์ส่วนตัว โดยส่วนรถยนต์ส่วนตัวมีแต่ไม่มากนัก

ขณะเดียวกัน บรรดาโชว์เฟอร์รถบรรทุกพ่วง ยังคงมีบางส่วนที่จอดรอคำตอบที่ชัดจนจาก เจ้าหน้าที่ไทย ว่าจะสามารถข้ามแดนไปได้หรือไม่ แต่ส่วนใหญ่พบว่าเดินทางกลับกันหมดแล้ว

โชว์เฟอร์รถบรรทุกชาว อ.ปราสาท บอกว่า ตนกำลังจะขับรถกลับ เห็นมีคนบอกว่า จะข้ามแดนได้จะต้องเป็นรถที่มีทะเบียนป้ายเหลือง ที่สามารถข้ามระหว่างประเทศได้ และจะต้องเป็นเจ้าของรถตัวจริง หรือไม่ก็ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้คนขับแทน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกน้องที่ถูกจ้างมาขับ เถ้าแก่จะไม่ขับเอง จึงพากันกลับ บางคนก็รอดูเพื่อความแน่ใจว่าจะข้ามไปได้หรือไม่

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพิ่มเติมว่า พบรถบรรทุกมันสำปะหลังที่ตกค้างฝั่งกัมพูชาตั้งแต่วันศุกร์ เริ่มทยอยเดินทางข้ามแดนกลับเข้ามาฝั่งไทยแล้ว ส่วนรถบรรทุกที่จะข้ามแดนไปกัมพูชานั้น ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจาก เจ้าหน้าที่ว่าให้ข้ามไปได้หรือไม่ อีกทั้งเกรงว่าถ้าข้ามไปแล้ว ถ้าเกิดกัมพูชาสั่งปิดด่านก่อน ก็จะไม่สามารถข้ามแดนกลับมาไทยคืนได้ ซึ่งบรรดาโชว์เฟอร์รถบรรทุก ที่มีเอกสารถูกต้องตามกฏหมาย บางส่วนก็ยังจอดรอคำตอบที่ชัดเจนดังกล่าวอยู่.
 

หน้าแรก » การเมือง