วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 14:58 น.

การเมือง

 ‘จิราพร’ อัดกลุ่มคนหน้าเดิมใช้คลิปเสียงคุยฮุนเซนเป็นข้ออ้างชุมนุม ปลุกระดมเพื่อปูทางเรียกรัฐประหาร

วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 14.53 น.

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2568 นางสาวจิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวถึงกรณีที่มีแกนนำบนเวทีรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อ 28 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ว่า เนื้อหาการปราศรัยบนเวทีโดยกลุ่มคนหน้าเดิมเป็นการชี้นำสังคม เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เรียกร้องให้มีการใช้อำนาจนอกระบบ ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการรัฐประหารทำให้ประเทศถอยหลัง เป็นการทำลายโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ของประเทศอย่างย่อยยับ

“รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบของพี่น้องประชาชนตามรัฐธรรมนูญ แต่การปราศรัยของแกนนำที่เรียกร้องให้มีการรัฐประหารอย่างเปิดเผย เป็นการกระทำที่เกินสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย การกระทำเช่นนี้ประชาชนคงต้องช่วยกันตั้งคำถามตัวโตๆ ว่า แกนนำจงใจใช้ประเด็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้นำไทยกับกัมพูชามาเป็นข้ออ้างเพื่อปลุกระดมให้เกิดการชุมนุม แต่ปลายทางที่ซ่อนอยู่คือการพยายามปูทางให้เกิดการรัฐประหารใช่หรือไม่? ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงขอเรียกร้องให้คนไทยร่วมกันยืนยันต่อต้านการรัฐประหาร” นางสาวจิราพร กล่าว

ขณะที่นางสาวชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (Twitter) บัญชี @BeerChayapa แสดงจุดยืนคัดค้านรัฐประหารอย่างชัดเจน และเรียกร้องให้แก้ปัญหาการเมืองผ่านกระบวนการประชาธิปไตย ไม่ใช่สร้างเงื่อนไขให้เผด็จการคืนอำนาจ

โดยชญาภา ระบุข้อความว่า “บทเรียนในประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นแล้วว่า #รัฐประหาร “ไม่ใช่” ทางออกของประเทศ ในทางตรงกันข้าม การทำรัฐประหารคือนำประเทศไปสู่ทางตัน บ่อนทำลายประชาธิปไตย พาประเทศถดถอยล้าหลัง”

นอกจากนี้ “หยุดเปิดประตูต้อนรับรัฐประหาร หยุดปลุกปั่นสร้างสถานการณ์ ที่จะนำไปสู่สูญญากาศทางการเมือง ซึ่งมีแต่จะซ้ำเติมวิกฤตประเทศมากขึ้น การแก้ปัญหาการเมืองควรเป็นไปตามกลไกวิถีทางประชาธิปไตย”

ทางด้านน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X ระบุว่า การชุมนุมอย่างสงบของพี่น้องประชาชน ย่อมเป็นสิทธิที่กระทำได้ในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลมีหน้าที่รับฟังเสียงของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเสียงของผู้ที่สนับสนุนหรือเห็นต่างจากรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม เดียร์ขอแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นว่า “รัฐประหารไม่ใช่ทางออกของประเทศไทย” และขอคัดค้านความพยายามทุกรูปแบบในการปูทางไปสู่การแทรกแซงการเมืองโดยกองทัพ

ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เราเห็นบทเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการใช้อำนาจนอกระบบ ไม่เพียงทำลายเสถียรภาพของประเทศ แต่ยังพาสังคมไทยเดินถอยหลัง และยังพรากสิทธิ เสรีภาพ และอำนาจในการกำหนดอนาคตของตนเองไปจากมือพี่น้องประชาชน การเห็นต่างจากรัฐบาลเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่การสร้างข้ออ้างเพื่อเปิดทางให้ “อำนาจนอกระบบ” กลับมามีบทบาทอีกครั้ง เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกฝ่ายต้องช่วยกันปฏิเสธ ประเทศไทยอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ไม่ใช่แค่จากปัญหาทางการเมืองภายใน แต่ยังรวมถึงภัยคุกคามจากต่างประเทศที่กำลังเคลื่อนไหวเพื่อสร้างวุ่นวายในประเทศของเรา

เดียร์ไม่เชื่อว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ การรัฐประหารและการแทรกแซงโดยกองทัพ จะเป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง แต่กลับยิ่งจะทำให้สถานการณ์ของประเทศเลวร้ายลง ดังที่เราเคยมีบทเรียนมาแล้วซ้ำๆ ในอดีต

“รัฐบาลชุดนี้จะอยู่จนครบวาระหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องรอพิสูจน์กันต่อไปด้วยผลงานของรัฐบาล แต่ไม่ว่าอย่างไร รัฐบาลสมัยหน้าควรต้องเกิดจากการเลือกตั้งโดยประชาชน ไม่ใช่จากรถถัง เดียร์ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสังคมไทย ร่วมกันปกป้องระบอบประชาธิปไตย และร่วมกันปิดประตูไม่ให้รัฐประหารเกิดขึ้นอีก“ น.ส.ขัตติยา กล่าว

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง