วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 23:02 น.

การเมือง

"บิ๊กป้อม" แนะนายกฯ ควรลาออก ลั่นยังไม่คุย "อนุทิน"  เสนอตัวผ่าทางตัน

วันพุธ ที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 15.33 น.

หัวหน้าพลังประชารัฐเผยยังไม่ได้หารือกับ "อนุทิน" ปมเสนอตัวนายกฯ ชั่วคราว บอกพรรคตนก็พร้อมเสนอชื่อเช่นกัน ย้ำวันเลือกตั้งมี ส.ส. 40 เสียง แนะนายกฯตัดสินใจลาออกเพื่อปลดล็อกประเทศ

เมื่อวันที่  2 กรกฎาคม 2568    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยส่งสัญญาณให้พรรคประชาชนสนับสนุนให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อผ่านทางตันว่า “ให้เขาเสนอก่อน ผมก็เสนอของผมได้” 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐมีเสียงไม่ถึง 25 เสียง จะเสนอตนเองเป็นนายกได้อย่างไร พลเอกประวิตร กล่าวว่า เพราะเมื่อวันเลือกตั้งเรามี สส. 40 คน นับอันเดิม เมื่อถามต่อว่านายอนุทินได้ติดต่อมาขอเสียงสนับสนุนหรือไม่ พลเอกประวิตรกล่าวว่า ยังไม่เจอกันเลย 

ส่วนเมื่อวานนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรียุติการปฏิบัติหน้าที่หน้าที่ชั่วคราว ยังไม่ได้คุยกับใครใช่หรือไม่ พลเอกประวิตรกล่าวว่า ยังเลย ๆ พร้อมส่ายหัว

ส่วนคำถามว่าประเทศไทยจะเดินหน้าอย่างไร พล.อ.ประวิตรย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไร และเมื่อถูกถามว่าเห็นควรเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เจ้าตัวตอบชัดว่า “ผมให้ลาออกไปแล้ว”

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกฎหมายในการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประวิตร ยังมีคุณสมบัติครบที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ เพราะยึดเสียงของสส. เมื่อครั้งที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2566 คือจำนวน 40 เสียง ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด หมายความว่าพรรคพลังประชารัฐมีเสียงสส.ครบเกณฑ์แล้ว ต่อมา สส.ในพรรคเสียชีวิตทำให้จำนวนไม่ครบเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด ถือว่าไม่มีผลที่ทำให้แคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐขาดคุณสมบัติ เช่นเดียวกันหากพรรคใดได้ สส. ไม่ครบเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ตั้งแต่ต้น ก็ไม่สามารถไปเกณฑ์ สส.เข้ามาสังกัด เพื่อให้เสียงครบตามจำนวน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่กลุ่มสส. ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ถูกขับออกไปจากพรรคแล้ว ก็จะไม่มีผลต่อการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีผล เพราะเรานับเสียงสส.เฉพาะในวันที่ชนะเลือกตั้ง ซึ่งตรงนี้อ้างอิงจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองอื่นได้พูดคุย เพื่อประสานเปลี่ยนขั้วการเมือง เข้ามาหรือยัง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มี ที่ผ่านมารัฐมนตรีและสส.ของแต่ละพรรคมีการพูดคุยกันเป็นปกติอยู่แล้ว เพื่อหาทางออกให้กับการเมือง บางส่วนอยากให้มีการเปลี่ยนขั้วและตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนจะเป็นพรรคไหน ยังไม่ได้ข้อสรุปถึงที่สุด

เมื่อถามว่า พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยว่าล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้มาพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย แต่อยากแจ้งไปถึงพรรคประชาชน ว่า อยากให้สส.ของพรรค หาทางออกให้กับบ้านเมือง การยึดแต่ประชาธิปไตย โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน ไม่คิดถึงความถูกต้องไม่ได้ จึงอยากให้ฟังเสียงของทุกส่วน เปลี่ยนแปลงเพราะการเมืองมีช่องทางในการเปลี่ยนแปลงที่สามารถหาทางออกร่วมกันได้ ต้องช่วยกัน ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนระบุว่ายินดีที่จะสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ข้อเสนอนี้เป็นทางออกหนึ่ง เมื่อถามว่าพรรคประชาชนมีจุดยืนเรื่องการเรียกร้องให้ยุบสภา นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การยุบสภาต้องเป็นปัญหากรณีที่สภามีปัญหา และไม่สามารถทำหน้าที่ได้ แต่ขณะนี้ สส.ไม่ได้ทำผิด แต่คนที่ทำผิดคือนายกรัฐมนตรีดังนั้นต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนตัวนายกฯ

”ไม่ได้ตะแบงว่าพรรคพลังประชารัฐไม่อยากเลือกตั้ง เพราะถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงพรรคก็พร้อม แต่วันนี้ปัญหาไม่ได้เกิดจากสส. ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลี สส.ก็ยังทำงานต่อได้ ตรงนี้คือแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย“ นายชัยวุฒิ กล่าว.
 

หน้าแรก » การเมือง