วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 19:06 น.

การเมือง

สภาฯ ล่มตั้งแต่วันแรก!  "ชูศักดิ์" รับเป็นบทเรียนรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ สั่ง สส.-รมต.เอางานมาทำที่สภา

วันพฤหัสบดี ที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.06 น.

สภาฯ ล่มวันแรกเปิดสมัย เหตุสส.หลายคนโดดร่วมแสดงความยินดีคณะรัฐมนตรีใหม่ "ชูศักดิ์" ยอมรับเสียงปริ่มน้ำทำงานยาก ลั่นต้องปรับกระบวนท่าให้เข้มงวด ย้ำต้องรักษาองค์ประชุมไม่ให้เสียหน้าอีก

เวลา 13.10 น. ที่รัฐสภา บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันแรกของสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่อาคารรัฐสภา เริ่มต้นด้วยความวุ่นวาย หลังจากเวลา 13.10 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีการอ่านพระราชโองการเปิดสมัยประชุม และประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

กระทั่งเวลา 13.45 น. ขณะพิจารณารับรองรายงานการประชุม นายอัคร ทองใจสด ส.ส.พลังประชารัฐ ลุกขึ้นขอนับองค์ประชุมทันที ทำให้นายวัชรพล ขาวขำ ส.ส.เพื่อไทย ประท้วงว่าผู้ร่วมรับรองคำขอไม่ครบถ้วน แต่ประธานยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วถูกต้องครบถ้วน

จากนั้น ส.ส.เพื่อไทยพยายามยื้อเวลา ขอให้รอสมาชิกที่ติดการประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายปี 2569 เข้าห้องประชุม แต่เมื่อรอกว่าสิบนาที จำนวนสมาชิกยังไม่ครบองค์ประชุม นายวัชรพลจึงเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีขานชื่อรายบุคคล

ท้ายที่สุด เวลา 13.58 น. นายพิเชษฐ์ประกาศปิดประชุมโดยระบุว่า “วันนี้เป็นวันแรก เอาแค่นี้ก่อน” สร้างความผิดหวังให้หลายฝ่ายที่เฝ้าติดตาม

แหล่งข่าวระบุ สาเหตุที่ ส.ส.ขาดประชุมจำนวนมาก เพราะหลายคนต้องไปเข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของรัฐมนตรีใหม่ ขณะที่อีกส่วนเดินทางไปแสดงความยินดีกับเพื่อนร่วมสภาที่ได้เลื่อนชั้นเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง แม้ทราบข่าวการนับองค์ประชุมก็รีบกลับ แต่ไม่ทันก่อนที่ประธานจะปิดการประชุม

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การนับองค์ประชุมถือเป็นบทเรียนสำคัญ เพราะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หากเจอเกมการเมืองลักษณะนี้บ่อยครั้งอาจกระทบเสถียรภาพ จึงได้กำชับรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยให้นำงานมาทำที่สภาในวันพุธและพฤหัสบดี เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย

“ปกติวันพฤหัสฯ เป็นวันที่คนมักจะออกไปทำงานอื่นกัน เพราะมีแต่กระทู้ถาม จึงไม่ค่อยกังวลเรื่ององค์ประชุม แต่ครั้งนี้เขาขอนับองค์ประชุมทันที จึงกลายเป็นอุทาหรณ์ให้ต้องปรับกระบวนท่า” นายชูศักดิ์กล่าว

เมื่อถามว่า การนับองค์ประชุมอาจกลายเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายชูศักดิ์ยอมรับว่า “ใช่” และมองว่าทั้งหมดเกิดจากความขัดแย้งที่ตกลงกันไม่ได้ จึงต้องใช้กลไกองค์ประชุมเอาชนะกัน ส่วนจะคาดโทษ ส.ส.ที่ไม่มาหรือไม่นั้น แกนนำพรรคจะต้องหารือกันต่อไป

นายชูศักดิ์ยังระบุว่า แม้พรรคเพื่อไทยมาร่วมประชุมกว่า 90% แต่พรรคร่วมรัฐบาลกลับมาน้อย จึงต้องร่วมกันหาทางแก้ไขให้รัดกุมขึ้น โดยเฉพาะในวาระสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
 

หน้าแรก » การเมือง