วันเสาร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568 13:32 น.

การเมือง

อดีตทูตรัศม์เตือน ยกเลิก MOU 43 เข้าทางกัมพูชา ไทยเสียเปรียบทันที – ชี้เป็นกรอบเจรจา ไม่ใช่สนธิสัญญาเสียดินแดน

วันพฤหัสบดี ที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 14.29 น.

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568  รัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตและผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกโรงเตือนสังคมไทยอย่าหลงเชื่อกระแสเรียกร้องจากบางพรรคการเมืองที่เสนอให้ยกเลิก บันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และ 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยชี้ว่า หากยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวในเวลานี้ จะกลายเป็นการเปิดทางให้กัมพูชาหลุดพ้นจากพันธกรณีการเจรจา และทำให้ไทยเสียเปรียบอย่างชัดเจน

“MOU 43 ไม่ใช่สัญญาเสียดินแดน แต่เป็นแค่ ‘กรอบเจรจา’ ที่มีไว้ให้สองประเทศพูดคุยกันอย่างมีทิศทาง” นายรัศม์กล่าว

เจรจาต้องมีกรอบ – ยกเลิกวันนี้ พรุ่งนี้ก็ต้องทำใหม่อยู่ดี
นายรัศม์อธิบายว่า MOU ทั้งสองฉบับ มีสถานะเป็นเพียงกรอบการเจรจาที่สองฝ่ายตกลงใช้ร่วมกัน โดยกำหนดว่าทุกข้อพิพาทจะต้องแก้ไขผ่านกลไก คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) ซึ่งเป็นการเจรจาแบบทวิภาคีและโดยสันติ

เขาย้ำว่า หากมีการยกเลิก MOU ในวันนี้ วันข้างหน้าก็ยังจำเป็นต้องตั้งกรอบใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้ในการเจรจาอยู่ดี และข้อตกลงใด ๆ ที่จะมีผลทางกฎหมาย ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะดำเนินการฝ่ายเดียวได้

ยกเลิก MOU เท่ากับปลดพันธนาการกัมพูชา
ในประเด็นที่กำลังเป็นที่กังวล นายรัศม์ชี้ว่า ปัจจุบันกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ละเมิด MOU 43 อยู่แล้ว ทั้งในแง่ของการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ที่ตกลงกันว่าไม่ควรมีการดำเนินการใด ๆ รวมถึงการพยายามหลีกเลี่ยงการเจรจาภายใต้ JBC เพื่อผลักดันให้เรื่องเข้าสู่เวทีระหว่างประเทศ เช่น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)

“MOU 43 คือเงื่อนไขสำคัญที่ยังบังคับให้กัมพูชาต้องนั่งเจรจากับไทย หากเราเป็นฝ่ายยกเลิก เท่ากับช่วยเขาหลุดจากพันธกรณีโดยตรง”

นายรัศม์ระบุว่า แม้ชื่อจะเป็น MOU แต่ในทางกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อตกลงนี้มีสถานะใกล้เคียงกับสนธิสัญญา หากไทยยังยืนยันในข้อตกลงนี้ ก็ยังสามารถชี้ให้ประชาคมโลกเห็นว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติตาม

ย้อนถามเจตนาทางการเมือง – ทำเพื่อใคร?
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวตั้งคำถามถึงเจตนาของบางพรรคการเมืองไทยที่ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก MOU ทั้งที่เคยมีบทบาทในรัฐบาลมาก่อนแต่ไม่เคยคัดค้าน นายรัศม์ตอบว่า

“มันน่าตั้งคำถามว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่คัดค้าน แต่วันนี้กลับมาเสนอให้ยกเลิกแบบไม่มีเหตุผลรองรับที่เพียงพอ คนไทยควรตั้งสติและพิจารณาว่า พฤติกรรมเช่นนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของใคร”
 

หน้าแรก » การเมือง