วันเสาร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568 13:31 น.

การเมือง

“สุดารัตน์” เสนอ 3 ทางรอดผ่าทางตันประเทศไทย – จี้ล้างระบบเก่า ฟื้นเศรษฐกิจ-การเมือง-คุณภาพชีวิตประชาชน

วันพฤหัสบดี ที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 16.03 น.

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 พรรคไทยสร้างไทยจัดสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์ ภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจไทยจะรอดได้อย่างไร” โดยมีนักวิชาการด้านเศรษฐกิจและผู้นำทางความคิดร่วมแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมเสนอทางออกจากวิกฤตการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวในเวทีอภิปรายช่วงบ่ายว่า ประเทศไทยอยู่ในภาวะ “ป่วยหนัก” ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม โดยจีดีพีเติบโตต่ำเพียง 1.5–2% กำลังซื้อประชาชนตกต่ำ รายได้ไม่พอรายจ่าย และประเทศเริ่มสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก พร้อมเปรียบว่า “ประเทศไทยวันนี้เหมือนคนแก่ที่ยากจนและป่วยเรื้อรัง”

เธอชี้ว่าวิกฤตครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากสถานการณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนถึงการบริหารประเทศที่ล้มเหลวโดยขาดวิสัยทัศน์ การศึกษาไม่ตอบโจทย์อนาคต โครงสร้างเศรษฐกิจล้าหลัง ค่าครองชีพสูง ขาดนวัตกรรม และเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยไม่มีการเตรียมพร้อม ขณะเดียวกัน งบประมาณรัฐจำนวนมากกลับถูกใช้โดยไม่เกิดประสิทธิภาพ และเปิดช่องให้มีการทุจริตสูงถึง 30% ในบางโครงการ

อีกประเด็นสำคัญคือระบบการเมืองที่เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะพฤติกรรมใช้เงินมหาศาลในการซื้อเสียง ซึ่งส่งผลให้ประชาธิปไตยถูกบิดเบือน และนักการเมืองมุ่งเน้นแต่ประชานิยมระยะสั้นเพื่อหาเสียง แทนที่จะสร้างนโยบายเชิงโครงสร้างเพื่ออนาคต

สุดารัตน์ เสนอ "3 ทางรอดของประเทศไทย" ดังนี้:

สร้างการเมืองสุจริต – วางรากฐานประชาธิปไตยที่โปร่งใส แก้ปัญหาทุจริตให้เป็นวาระแห่งชาติ

ผ่าตัดโครงสร้างเก่า – ปฏิรูปกฎหมาย ระบบงบประมาณ และกลไกราชการที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา

ธำรงสถาบันหลักของชาติ – โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ และศาสนา ที่เป็นศูนย์รวมใจของประชาชน

“ประเทศต้องการผ่าตัดครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนคน แต่ต้องเปลี่ยนระบบให้ประชาชนได้กลับมาเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยกล่าว

ดร.โภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เตือนว่า หากยังคงปล่อยให้การเมืองไร้จริยธรรม คอร์รัปชันเรื้อรัง และระบบราชการไร้ประสิทธิภาพ ประเทศไทยอาจเข้าสู่ภาวะ “รัฐล้มเหลว” โดยเฉพาะเมื่อโลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ทั้งสงครามการค้า พลังงาน เทคโนโลยี AI และสิ่งแวดล้อม ซึ่งไทยยังไม่มีทิศทางการรับมืออย่างจริงจัง

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสริมว่า เศรษฐกิจไทยต้องลดการพึ่งพาการส่งออกและต่างชาติ หันมาเน้นการผลิตในประเทศ ปรับกฎหมายให้เอื้อต่อ SMEs และสนับสนุนการใช้ “วิทยาศาสตร์และสติปัญญา” แทนความเชื่อแบบเดิม เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

บรรดานักวิชาการและวิทยากรเห็นพ้องกันว่า ประเทศไทยต้องรีบปฏิรูปโครงสร้างการเมือง การบริหาร และระบบเศรษฐกิจโดยด่วน หากยังปล่อยให้น้ำเน่า – หมายถึงการเมืองที่ทุจริต – ไหลอยู่ในระบบ แม้ปลาจะว่ายเก่งแค่ไหน ก็อยู่รอดไม่ได้
 

หน้าแรก » การเมือง