วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:27 น.

การเมือง

ชายแดนเริ่มสงบ! รัฐบาลกำชับความพร้อมพาประชาชนกลับบ้านปลอดภัย ลุยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 09.55 น.

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลย้ำไม่มีใครตกหล่น กำชับทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือทุกมิติ ทั้งเงินชดเชย ซ่อมบ้าน–รถ ลดหย่อนภาษี และดูแลสุขภาพครบวงจร

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่ารัฐบาลยืนยันว่ามีความพร้อมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2568 ในกรณีผู้เสียชีวิตที่เป็นประชาชนทั่วไปรายละ 8 ล้านบาท ข้าราชการทหาร-ตำรวจ รายละ 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบบาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บเล็กน้อย ทุพพลภาพ จะได้รับการเยียวยา โดยไม่มีการตกหล่นจากมาตรการเยียวยาดังกล่าวอย่างแน่นอน

นายจิรายุกล่าวว่า นอกจากมาตรการตามมติ ครม. หน่วยงานราชการต้นสังกัด อาทิ กระทรวงกลาโหม จะดูแลครอบครัวญาติพี่น้องของข้าราชการทหารที่เสียชีวิต ให้ได้รับสวัสดิการ สิทธิการรับราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตอบแทนคุณความดีที่ได้เสียสละชีวิตรักษาอธิปไตยของประเทศ

สำหรับการเยียวยาบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย การลงพื้นที่ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จ.สุรินทร์ เพื่อไปรับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะจากประชาชนและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อนำมากำหนดแนวทางการเยียวยา ทั้งด้านความเสียหายทางการเกษตร ปศุสัตว์ และบ้านเรือนของประชาชน เพื่อรวบรวมกำหนดออกเป็นรายละเอียดในการเยียวยาครั้งที่ 2 ในส่วนทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

นอกจากนั้น รัฐบาลมอบหมาย 7 รัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวทั้งหมด 12 แห่ง 4 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพื่อเร่งรัดมาตรการช่วยเหลือ

โดยวันนี้นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์, นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมช.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

นายจิรายุกล่าวว่า สำหรับการเยียวยา ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในปั๊ม ปตท. บ้านผือ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ได้รับเสียหายจากผลกระทบการยิงระเบิด BM-21 จากฝั่งกัมพูชา ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แจ้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ปะทะตามชายแดนดังนั้น บริษัทประกันจะปฏิเสธการคุ้มครองไม่ได้ ต้องรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียหายที่ได้ทำประกัน สำหรับประชาชนคนใด ที่ได้ทำประกันภัยไว้ ขอให้เร่งตรวจสอบสิทธิประโยชน์ของตนอีกครั้ง

สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา เริ่มคลี่คลาย 

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในขณะนี้คือการดูแลความปลอดภัย และพาประชาชนกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าปลอดภัย 100% และมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้

นายอนุกูล กล่าวว่า สำหรับการเดินทางกลับที่พักอาศัยนั้น ในบางพื้นที่อาจเผชิญระดับสถานการณ์ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น หากประชาชนมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ กระทรวงสาธารณสุขมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 1. ให้ตรวจสอบความพร้อมของบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยอย่างละเอียด อาทิ ด้านโครงสร้างบ้าน ผนัง หลังคา และระบบไฟฟ้า 2. ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค 3. สังเกตสภาวะทางจิตใจของตนเองและคนในครอบครัว หากรู้สึกว่ามีอาการเครียด วิตกกังวล หรือมีอาการคล้ายซึมเศร้า ควรเข้ารีบเข้าปรึกษาแพทย์/เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยทันที และ 4. หมั่นดูแลสุขอนามัยที่ดี 

ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และดื่มน้ำที่สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งหมั่นดูแลความสะอาดด้านสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเข้าร่วมกิจกรรมยามว่างเพื่อสร้างความผ่อนคลายและลดความเครียด โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทีมดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงเต็มที่ ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต อนามัยสิ่งแวดล้อม

“ทั้งนี้ การปฏิบัติตามข้อแนะนำของศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่น เก็บของใช้ส่วนตัวให้เป็นระเบียบ หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้อื่น ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ และหากรู้สึกตัวว่ามีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม ขอให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หรือพบว่าคนในครอบครัวมีอาการผิดปกติ ให้พูดคุยหรือขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของตนเองและครอบครัว” นายอนุกูล ระบุ

คลังมอบสรรพากร ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้ง 7 จังหวัด (ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี) ให้กับประชาชนหรือผู้ประกอบการที่ต้องชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์

โดยมี 3 มาตรการสำคัญ มีดังนี้

1. ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีทุกประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ รวมถึงการขยายเวลาการขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน ที่มีกำหนดการดำเนินการระหว่างวันที่ 24 ก.ค. -29 ก.ย.2568 ออกไปเป็นวันที่ 30 ก.ย.2568 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้เสียภาษีในพื้นที่

2. มาตรการลดหย่อนภาษีค่าซ่อมแซม แบ่งออกเป็นค่าซ่อมแซมบ้าน สามารถนำค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. -31 ธ.ค. 2568 มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ค่าซ่อมแซมรถ สามารถนำค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. -31 ธ.ค.2568 มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท

3. ยกเว้นภาษีสำหรับเงินช่วยเหลือเยียวยา โดยกรมสรรพากรจะออกประกาศยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินช่วยเหลือเยียวยาที่ผู้ได้รับผลกระทบได้รับ ดังนี้ เงินเยียวยาที่ได้รับจากรัฐบาล เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการบริจาคหรือช่วยเหลือ ค่าสินไหมทดแทนส่วนที่ยังไม่ได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมายในปัจจุบัน

“รัฐบาลพร้อมเคียงข้างประชาชน เดินหน้าบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาอย่างเต็มกำลังความสามารถ และพร้อมขับเคลื่อนมาตรการช่วยเหลือในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนสามารถฟื้นตัว กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว” นางสาวศศิกานต์ กล่าว
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง