เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงว่า วิปวุฒิสภากำหนดให้มีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2569 ในวันที่ 1-2 ก.ย. ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ69 จะสรุปประเด็นและข้อสังเกตต่างๆ ภายในวันที่ 25-26 ส.ค. เพื่อส่งให้นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไป โดยสว.จะพิจารณาทั้ง 3 วาระรวดอย่างเร่งด่วนและอยู่ภายใต้กรอบของระยะเวลาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 143 ที่กำหนดให้พิจารณาภายในระยะ 20 วัน

“ขอยืนยันว่ากรณีที่มีการกล่าวหาว่าวุฒิสภาจะมีมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเพราะการพิจารณาพ.ร.บ. ครั้งที่ผ่านมาถือเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกวุฒิสภาแต่ละคนมาโดยตลอดไม่มีการบังคับขู่เข็ญหรือใช้อำนาจใดๆ ในการลงมติ” นายพิสิษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการอย่างไรกับคนที่ กล่าวหา นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวมองว่าคงเป็นเพียงการมโนเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องตอบโต้ใดๆ

เมื่อถามว่า ในวุฒิสภาไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ไม่มี ย้ำว่าใครจะโหวตอย่างไร ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน

 "วิสุทธิ์" ย้ำ "วุฒิฯ" ไม่มีสิทธิ์คว่ำ "งบฯ 69"  
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ได้ถูกส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณาตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยวุฒิสภามีเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ซึ่งอำนาจของวุฒิสภามีเพียงแค่ "เห็นชอบ" หรือ "ไม่เห็นชอบ" เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในการแก้ไขหรือแปรญัตติใด ๆ ทั้งสิ้น หากวุฒิสภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ถือว่าเห็นชอบตามสภาผู้แทนราษฎร แต่หากวุฒิสภาไม่เห็นชอบ ร่างกฎหมายจะถูกส่งกลับมาให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติอีกครั้ง ซึ่งถ้าผลโหวตเกินกึ่งหนึ่งก็จะถือว่าผ่าน และสามารถทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ทันที ดังนั้นจึงไม่เป็นกังวลในเรื่องนี้ และเชื่อว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือนหน้า

นายวิสุทธิ์ ยังได้ชี้แจงกรณีที่การประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ถูกมองว่าเป็นการชิงปิดการประชุมเพื่อป้องกันองค์ประชุมล่ม โดยยืนยันว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน วันดังกล่าว สส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลทำงานอย่างหนักในการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญถึง 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. การขนส่งทางราง และ พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ซึ่งมีการลงมติไปกว่า 100 ครั้ง

"ที่ผมขอให้ประธานปิดการประชุม เนื่องจากเห็นว่า สส. มุสลิมบางส่วนต้องออกไปประกอบศาสนกิจหรือละหมาดในช่วงเย็น ซึ่งอาจส่งผลต่อองค์ประชุมได้ หากยังคงพิจารณาต่อ ผมจึงตัดสินใจเดินไปขอประธานในที่ประชุมให้ปิดการประชุม เพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนหลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งวัน" นายวิสุทธิ์กล่าว

เมื่อถูกถามถึงกรณีการไต่สวนคดีคลิปเสียงของนายกฯโดยศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า สส. พรรคเพื่อไทยต่างให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี โดยทุกคนยังคงทำหน้าที่ในห้องประชุมสภาฯ ตามปกติ ไม่มีใครเดินทางไปศาลฯ เนื่องจากมั่นใจในความบริสุทธิ์ของนายกรัฐมนตรี และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน