วันพุธ ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568 02:08 น.

การเมือง

‘ประเสริฐ’ หารือ ‘สภาอุตสาหกรรมโคราช’ ผลักดันงาน ‘AgroFEX 2025’ ยิ่งใหญ่ เดินหน้าพัฒนา ‘เมืองศูนย์กลางดิจิทัลภาคอีสาน’  

วันอาทิตย์ ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 13.32 น.

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการเข้าร่วมประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาจังหวัด เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมาที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาว่า ประเด็นสำคัญที่ที่ประชุมหยิบยกขึ้นมาหารือคือการจัดงาน AgroFEX 2025 ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ ได้เรียนเชิญตนมาร่วมเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช พร้อมทั้งขอให้ช่วยเชิญชวนหน่วยงานและบริษัทด้านดิจิทัล อาทิ DEPA, NT, Huawei, AIS, True และไปรษณีย์ไทย เข้าร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งได้ตอบรับที่จะเป็นประธานในพิธีและยืนยันว่าจะประสานงานเชิญภาคเอกชนเข้าร่วมอย่างเต็มที่
 
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในส่วนของการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการ (MICE) ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ เสนอให้พิจารณาสร้างศูนย์ประชุมขนาด 5,000 ตารางเมตร โดยอาจใช้พื้นที่บริเวณ ปภ.5 และให้รัฐเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างก่อนมอบให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่งเป็นโมเดลที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่นั้นตนจะหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง รวมถึงนำผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมามาพิจารณาเป็นข้อมูลประกอบ
 
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่น่าสนใจคือการพัฒนาและยกระดับพิพิธภัณฑ์ โดยสภาอุตสาหกรรมฯ ขอการสนับสนุนงบประมาณเพื่อก่อสร้างและปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เชื่อมโยงกับเส้นทางท่องเที่ยวหลักและโครงสร้างพื้นฐานของจังหวัด ซึ่งในด้านการพัฒนาคน สภาอุตสาหกรรมฯ ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงดีอี ในการส่งเสริมทักษะดิจิทัลและ AI ให้กับเยาวชน ตั้งแต่ระดับเด็กเล็กไปจนถึงมัธยมศึกษา ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสนอเพิ่มเติมให้กระทรวงช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ในการทำการตลาด การจัดการด้านภาษี และการบริหารกิจการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยตรง
 
ด้านการลงทุน สภาอุตสาหกรรมฯ เสนอให้รัฐบาลเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อดึงดูดนักลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไบโอเทค รวมถึงการเชิญชวนบริษัทด้าน Cloud และ Data Center เข้ามาตั้งฐานในพื้นที่โคราช ซึ่งจะช่วยยกระดับจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของภาคอีสาน ขณะเดียวกันผู้แทนจากนิคมอุตสาหกรรมนวนครก็ได้สะท้อนปัญหาด้านการจัดการน้ำ โดยเน้นว่าจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่มั่นคงเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต
 
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจจากภาคเอกชน เช่น การพัฒนาโคราชให้เป็นเมือง Digital Nomad เพื่อดึงดูดกลุ่มคนทำงานที่ใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือหลัก ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมือง รวมถึงการผลักดันโครงการขยายแนวเขตท่อประปาไปยังพื้นที่เขาใหญ่ที่ยังขาดแคลนระบบน้ำประปา ซึ่งล้วนเป็นปัญหาพื้นฐานที่ประชาชนให้ความสำคัญ 
 
“ขอชื่นชมต่อสภาอุตสาหกรรมฯ ในการพยายามและแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเมืองนครราชสีมา เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะพิจารณาสนับสนุนและประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจังหวัดนครราชสีมามีศักยภาพที่จะเป็นเมืองต้นแบบของภาคอีสาน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและเทคโนโลยี รัฐบาลพร้อมบูรณาการกับทุกหน่วยงานเพื่อผลักดันให้โคราชก้าวสู่การเป็นเมืองทันสมัย เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นกับโลกดิจิทัล และสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับประชาชน”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าวย้ำ

หน้าแรก » การเมือง