เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย–กัมพูชา ซึ่งจะจัดขึ้นที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ วันที่ 27 ส.ค.นี้ ว่า ฝ่ายไทยเตรียมเสนอ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การรักษาอธิปไตย และการปฏิบัติภายใต้ความสัมพันธ์ปกติ ทั้งนี้ ไทยยืนยันให้ครอบคลุมพื้นที่ชายแดนทั้งหมด ไม่ใช่เพียงบางส่วน ขณะที่ต้องรอดูท่าทีการตอบรับจากฝ่ายกัมพูชา

พลโท บุญสิน ย้ำว่า ข้อเสนอของกัมพูชาที่ให้ไทยรื้อรั้วลวดหนามแลกกับการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิดนั้น ไทยไม่อาจยอมรับได้ เพราะรั้วดังกล่าวเป็นแนวตั้งกำลังของไทย พร้อมเปิดเผยว่ามีรายงานกองกำลัง BHQ ของกัมพูชาซุ่มติดตามการลาดตระเวนของไทย หากมีการรุกล้ำอธิปไตยหรือวางทุ่นระเบิด กำลังพลไทยได้รับคำสั่งชัดเจนให้ “ตอบโต้ทันที”

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังระบุว่า กัมพูชายังคงละเมิดการหยุดยิงด้วยการลอบวางทุ่นระเบิด ซึ่งไทยได้ประท้วงและเตือนมาโดยตลอดว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตย พร้อมย้ำว่าการเจรจาในกรอบ RBC, GBC และ JBC จะประสบผลหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายระดับผู้นำกัมพูชา เพราะแม้กองกำลังภูมิภาคจะรับทราบ แต่หากไม่มีสัญญาณจากผู้บริหารระดับสูง ก็ยากจะนำไปสู่การปฏิบัติจริง

ในประเด็นการเมืองกัมพูชา พลโท บุญสินกล่าวว่า หากสมเด็จฮุนเซนนั่งรักษาการประมุขแห่งรัฐ ย่อมส่งผลต่อท่าทีชายแดน ซึ่งไทยพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ และย้ำว่าทหารไทยปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยโดยไม่เกี่ยวข้องกับเกมการเมือง ทั้งยังตอบโต้ข้อกล่าวหาของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่บิดเบือนข้อมูลว่า ไทยมีหลักฐานเชิงประจักษ์และพร้อมพิสูจน์ต่อสายตานานาชาติ

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ยังชี้ว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ต้นเดือนกันยายน จะเดินหน้าตามภารกิจปกติ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมืองในประเทศ พร้อมเปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้ขอบคุณและชื่นชมกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตย และยืนยันกองทัพพร้อมสนับสนุนการทำงานในทุกด้าน