วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568 02:18 น.

การเมือง

ผู้ตรวจการแผ่นดินเปิดเวทีรับฟังเสียงสาธารณชนแก้ปัญหาคนไร้บ้านและกลุ่มเปราะบาง

วันพุธ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568, 18.03 น.

ผู้ตรวจการแผ่นดินเปิดเวที “Place of Justice” ฟังเสียงสาธารณชนแก้ปัญหาคนไร้บ้านและกลุ่มเปราะบาง

10 กันยายน 2568/- สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจัดกิจกรรม “การรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม (Place of Justice)” ภายใต้โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุม 901–902 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนร่วมสะท้อนปัญหา โดยปีนี้มุ่งประเด็น กลุ่มเปราะบางและคนไร้บ้าน

นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินตระหนักถึงความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมของประชาชน โดยเฉพาะคนไร้บ้าน และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากที่ต้องเผชิญปัญหาซับซ้อนทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงกว่าบุคคลทั่วไป ดังนั้น ตามบทบาท หน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงขับเคลื่อนกลไก“Place of Justice”  เพื่อสร้างพื้นที่กลางในการเปิดรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยมุ่งสะท้อนสาเหตุของปัญหาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมที่ประชาชนได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน ควบคู่กับการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนควรได้รับตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเสริมภารกิจของผู้ตรวจการแผ่นดินในการป้องกันและแก้ไขความไม่เป็นธรรมอย่างเป็นรูปธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในปีงบประมาณที่ผ่านมา โครงการ Place of Justice เป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานและประชาชนทั่วประเทศ ทำให้ทราบถึงประเด็นปัญหาสำคัญ 6 กลุ่ม ได้แก่ สาธารณูปโภคพื้นฐาน การเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ปัญหาที่ต้องการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแก้ไข ปัญหาที่ต้องการให้กรมหรือกระทรวงแก้ไข ปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัย และความล่าช้าของการดำเนินการทุจริตภายในองค์กร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สำคัญต่อการกำหนดข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และต่อยอดสู่การทำงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

สำหรับในปีงบประมาณนี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้หยิบยกปัญหาคนไร้บ้านและกลุ่มเปราะบาง เป็นประเด็นหลักในการขับเคลื่อน โดยมุ่งเน้นผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียงที่ยังประสบอุปสรรคหลายประการทั้งงบประมาณด้านสาธารณสุขที่ไม่เพียงพอ ปัญหาประชากรแฝงและชุมชนแฝงในเขตเมือง ระบบสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ยังไม่ครอบคลุม การส่งต่อผู้ป่วย การประชาสัมพันธ์ให้ผู้ป่วยทราบถึงการให้บริการของสถานพยาบาลและความพร้อมของสถานพยาบาลในการปรับใช้เทคโนโลยีตามโครงการต่าง ๆ รวมถึงปัญหาคนไทยไร้สิทธิและชาวต่างชาติที่ถูกทอดทิ้ง เพราะฉนั้นการแก้ปัญหากลุ่มเปราะบางและคนไร้บ้านไม่ใช่เพียงการช่วยเหลือเฉพาะหน้า แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พวกเขาอย่างยั่งยืน

ดังนั้น ไฮไลท์ของเวทีในครั้งนี้ที่นอกจากการบรรยายพิเศษ เรื่อง ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนไร้บ้าน โดยนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน แล้วยังมีการเสวนาเรื่อง “ฟังเสียง ร่วมสร้างกลไกแก้ไขปัญหาประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนไร้บ้าน” โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ได้แก่ นางสาวธิดาพร เสาวนะ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำเสนอแนวนโยบายและมาตรการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และการจัดสวัสดิการขั้นพื้นฐานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของ กลุ่มเปราะบางและคนไร้บ้าน นายธีรวีร์ วีรวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ได้สะท้อนถึงสถานการณ์จริงและแนวทางการพัฒนา ส่งเสริม ดูแลกลุ่มเปราะบางและคนไร้บ้านในกรุงเทพมหานคร นายสิทธิพล ชูประจง หัวหน้าโครงการผู้ป่วยข้างถนนและจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานภาคสนามและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือและคืนโอกาสแก่คนไร้บ้าน นายนันทชาติ หนูศรีแก้ว ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย นำเสนอความจำเป็นและแนวทางการจัดหาที่พักอาศัย การให้คำปรึกษา และการส่งเสริมอาชีพในระยะยาว ซึ่งดำเนินรายการ โดยนายสิริน ชาวเพ็ชรดี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

“การจัดกิจกรรม Place of Justice ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินในการขับเคลื่อนบทบาทเชิงรุก เพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมและไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ผ่านการเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็น การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยการทำงานทุกภาคส่วนทั้งรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ให้ความช่วยเหลือได้ครอบคลุม  และกิจกรรมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของผู้ตรวจการแผ่นดินในการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมทำหน้าที่ผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายจากเวทีนี้สู่การปฏิบัติให้เกิดผลจริง” นายทรงศัก กล่าว

หน้าแรก » การเมือง