วันอาทิตย์ ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:33 น.

การเมือง

“ณัฐพงษ์” ย้ำแก้รัฐธรรมนูญคือกุญแจ “ปลดล็อกประเทศ” ชี้ต้องเริ่มวันนี้ให้เข็มนาฬิกาไทยเดินหน้า

วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 15.15 น.

วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายสรุปในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ถึงความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก่อนที่จะมีการลงมติรับหลักการในช่วงเย็นของวันเดียวกัน

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญความทดถอยทางประชาธิปไตย และไม่อาจเดินหน้าได้หากยังติดอยู่กับกรอบเดิม จึงต้อง “คิดใหม่ ออกแบบใหม่” เพื่อให้ประชาธิปไตยตอบสนองผลลัพธ์ต่อประชาชนได้จริง ทั้งในด้านการถ่วงดุลอำนาจ การตรวจสอบ และการบริหารงานของรัฐที่ต้องยึดโยงกับประชาชน พร้อมเน้นว่ารัฐควรดำเนินการด้วยหลักโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ

ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญที่ดีจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้าง “โอกาสที่เปิดกว้าง” ให้กับคนไทยทุกคน และรัฐบาลในอนาคตต้องสามารถ “เลือกลงทุนได้อย่างตรงจุด” โดยไม่ถูกตีกรอบจากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมเสนอแนวคิด “4 เสาหลักแห่งการลงทุนอนาคต” ได้แก่

ลงทุนในคน เพื่อยกระดับศักยภาพประชาชน

ลงทุนในเมือง เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับชีวิตคนรุ่นใหม่

ลงทุนในดิจิทัล เพื่อเปลี่ยนจาก “รัฐกระดาษ” สู่ “รัฐแพลตฟอร์ม”

ลงทุนในความยั่งยืน ครอบคลุมพลังงานสะอาด เศรษฐกิจสีเขียว และอุตสาหกรรมอนาคต

“รัฐบาลยุคใหม่ทั่วโลกไม่ได้แข่งกันแค่เป็นรัฐบาลดิจิทัล แต่แข่งกันเป็น รัฐแพลตฟอร์ม ที่เชื่อมโยงประชาชนและภาคธุรกิจ เช่น Digital ID, e-KYC, ระบบการชำระเงิน และการแบ่งปันข้อมูล (Data Sharing)” นายณัฐพงษ์กล่าว

ในส่วนของความยั่งยืน เขากล่าวถึงทิศทางสำคัญ เช่น การผลักดันเศรษฐกิจสีเขียว การจัดการขยะ การส่งเสริมข้าวยั่งยืน ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการสร้างห่วงโซ่อุปทานสีเขียว เพื่อเปลี่ยนอุตสาหกรรมไทยจาก “ตะวันตกดิน” สู่ “ดาวรุ่งแห่งอนาคต”

นายณัฐพงษ์กล่าวย้ำว่า การลงทุนทั้งสี่ด้านนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากยังไม่มีรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง “รัฐธรรมนูญไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นเงื่อนไขจำเป็นของการเริ่มต้นใหม่ ถ้าเราไม่ริเริ่มจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตั้งแต่วันนี้ เข็มนาฬิกาของประเทศไทยจะยังคงหยุดนิ่ง”

ทั้งนี้ ผู้นำฝ่ายค้านระบุว่า ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล และวุฒิสภา ต่างแสดงเจตจำนงร่วมกันที่จะรับทุกร่างเข้าสู่การพิจารณาในวาระสอง ซึ่งถือเป็น “จังหวะสำคัญที่สุด” ที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไป โดยพรรคประชาชนเสนอให้ใช้ ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก เพราะออกแบบมาอย่างยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด

“หากวันนี้เราปล่อยให้ความกลัวเป็นตัวกำหนดอนาคต ประเทศไทยจะไม่มีวันเริ่มต้นอะไรใหม่ได้เลย ผมอาจไม่สัญญาว่าร่างสุดท้ายจะเป็นฉบับในฝันของทุกคน แต่มั่นใจว่ากระบวนการที่เรากำลังเริ่ม จะเป็นการหมุนเข็มนาฬิกาของประเทศไทยให้เดินหน้าอีกครั้ง” นายณัฐพงษ์กล่าวทิ้งท้าย

พร้อมยืนยันว่า พรรคประชาชนจะลงมติรับหลักการในทุกร่าง เพื่อส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ และเสนอให้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก “เพื่อให้เข็มนาฬิกาเรือนนี้หมุนต่อไปด้วยมือของประชาชน ไม่ใช่มือของนักการเมือง”
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง