วันจันทร์ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:19 น.

การเมือง

เพื่อไทยเปิดศึกประชาชน ชิงเก้าอี้ประธาน กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ "ณัฐวุฒิ" ปะทะ "ชูศักดิ์"  

วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.43 น.

พรรค ปชน.จ่อเสนอชื่อ "ณัฐวุฒิ บัวประทุม" เป็นประธานกมธ.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไทยฮึดสู้ ส่ง  "ชูศักดิ์" เข้าชิง  ด้าน อดีตกกต. เตือน พรรคส้มอย่าเพิ่งชะล่าใจจะชนะเกมแก้รธน.  

เมื่อวันที่ 17  ตุลาคม 2568    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมรัฐสภา มีมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ พรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรกสัปดาห์หน้า

พรรคประชาชน มีแผนจะเสนอชื่อ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานคณะกรรมาธิการ เนื่องจากร่างของพรรคประชาชนถูกกำหนดให้เป็นร่างหลักในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ โดยหลังจากนี้ พรรคประชาชน จะเดินหน้าทำงานเต็มที่ และแสวงหาความร่วมมือกับทุกฝ่ายในชั้นคณะกรรมาธิการ เพื่อให้ได้มาซึ่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด

ทางด้านพรรคเพื่อไทยมีรายงานว่า เตรียมส่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แกนนำพรรคเข้าชิงเช่นเดียวกัน 

ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (อดีต กกต.) โพสต์เฟซบุ๊ก "ปั่นไปไหน - สมชัย ศรีสุทธิยากร" หัวข้อ "ร่างหลัก แล้วอย่างไร" ระบุว่า...

ร่างหลัก แล้วอย่างไร

รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การจับมือแสดงความดีใจที่ สส. พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ร่วมมือกันในการโหวตเอาชนะ พรรคภูมิใจไทยและสมาชิกวุฒิสภา ในการลงคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ จนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนถูกใช้เป็นร่างหลักในวาระสองและสามของการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วอย่างไรต่อ

ในวาระสอง ที่เป็นการพิจารณาแปรญัตติรายมาตรา ก็จะเรียงตามมาตราของร่างพรรคประชาชนและอาศัยโครงสร้างการออกแบบของพรรคประชาชนเป็นหลัก ที่ประชุมสามารถตกแต่งแก้ไขได้ แต่ยากที่จะพลิกกลับเป็นโครงสร้างการออกแบบตามร่างของพรรคภูมิใจไทย ยิ่งภายใต้องค์ประกอบกรรมาธิการที่มีเสียงพรรคประชาชนรวมกับเพื่อไทยและฝ่ายค้านที่เหลือมีมากกว่าฝายรัฐบาลแม้รวมกับ สว. แล้วก็ตาม

หมายความว่า ผลผลิตการทำงานของกรรมาธิการก็น่าจะมีหน้าตาของ สสร. ตามที่ พรรคประชาชนโดยความร่วมมือของพรรคเพื่อไทยต้องการ เข้าสู่การลงมติรายมาตราในวาระที่สอง และลงมติทั้งฉบับในวาระที่สามในที่ประชุมรัฐสภา

การลงมติในวาระที่สอง ยังอาจผ่านไปได้โดยอาจชนะหรือแพ้ในบางมาตราหากมีการสงวนคำแปรญัตติและฝ่ายข้างน้อยมาชนะในที่ประชุมใหญ่ แต่สิ่งที่น่ากลัวสุดคือ การลงมติรับหรือไม่รับทั้งฉบับในวาระที่สาม

มาตรา 256(ของรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุว่าการลงมติในวาระที่สาม นอกจากได้รับเสียงข้างมากของที่ประชุมรัฐสภาแล้ว ยังต้องได้เสียงจาก สว. จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม หรือ เกินกว่า 66 เสียงด้วย

คงยังจำบทเรียนเรื่องการลงมติไม่รับหลักการร่างของพรรคเพื่อไทยในวาระที่หนึ่ง ที่มี สว. เห็นชอบเพียง 60 เสียงจนร่างตกไปทั้งร่างได้นะครับ

เดาว่า วันเลือกตั้ง อาจมีคำถามประชามติเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เพียงข้อแรกเพียงข้อเดียว ว่าเห็นชอบหรือไม่ ส่วนคำถามที่สองเกี่ยวกับวิธีการแก้และสาระสำคัญของสิ่งที่แก้ยังหาข้อสรุปไม่ได้

ตอนนั้น ไม่รู้ว่า เป็นเสียงหัวเราะของใคร 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง