การเมือง
นายกรัฐมนตรีนำวางพวงมาลาถวายราชสักการะ รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ "พระปิยมหาราช" เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2568
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนทุกภาคส่วน วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี พ.ศ. 2568
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลา 08.30 น. ที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทุกภาคส่วน วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี พ.ศ. 2568 ในนามนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย
พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบรมรูปทรงม้า จัดสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ จอร์จ เซาโล (Georges Saulo) ช่างปั้นชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ปั้นพระบรมรูป ซึ่งพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเป็นแบบให้นายช่างปั้นหุ่น ขณะเสด็จประทับอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยองค์พระบรมรูปมีขนาดเท่าพระองค์จริง ประทับอยู่บนหลังม้าพระที่นั่ง และต่อมาพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีชักผ้าแพรคลุมเปิดพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2451
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระบรมราชสมภพเมื่อวันอังคารที่ 20 ก.ย. 2396 ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เมื่อแรกประสูติทรงได้รับพระนามว่า “เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์” ต่อมาได้รับพระราชทานพระสุพรรณบัฏจารึกพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามกุฎ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศบริพัตร สิริวัฒนราชกุมาร”
เมื่อพระชนมพรรษาครบ 15 พรรษา พระองค์ได้เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ในวันที่ 1 ต.ค. 2411 และประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกในวันที่ 11 พ.ย. 2411 โดยทรงได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุฬาลงกรณ์เกล้าเจ้าอยู่หัว” ต่อมาเมื่อพระชนมพรรษาครบ 20 พรรษา ได้มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่สองขึ้น เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2416 และได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2453 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต สิริพระชนมพรรษา 58 พรรษา ทรงครองราชสมบัติยาวนานถึง 43 ปี
ตลอดรัชสมัยการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างอเนกอนันต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูประเบียบบริหารราชการ ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม โดยทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนากระทรวงมหาดไทยขึ้น และได้ทรงมอบหมายให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นองค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย โดยทรงจัดรวบรวมหัวเมืองที่สำคัญขึ้นเป็นเขตการปกครองเรียกว่า “มณฑลเทศาภิบาล” และได้ทรงริเริ่มจัดการ “สุขาภิบาล” ในเขตกรุงเทพมหานคร และตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อทดลองให้ประชาชนรู้จักการปกครองตนเองในระดับท้องถิ่น และทดลองจัดระเบียบการปกครองระดับตำบล หมู่บ้าน ขึ้นเป็นครั้งแรกที่บ้านเกาะ ณ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ทรงริเริ่มนำระบบการใช้ธนบัตรและเหรียญบาท มาใช้ในประเทศไทย รวมถึงการทรงริเริ่มสร้างรถไฟ สายแรก คือ กรุงเทพมหานคร - อยุธยา การก่อตั้งการประปา การไฟฟ้า ไปรษณีย์โทรเลข โทรศัพท์ การสื่อสาร และยังทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการขุดคลองเพื่อการคมนาคม เช่น คลองประเวศบุรีรมย์ คลองแสนแสบ คลองเปรมประชากร คลองทวีวัฒนา คลองรังสิตประยูรศักดิ์ เป็นต้น ทั้งยังทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองส่งน้ำประปาจากแหล่งน้ำดิบเชียงรากสู่สามเสน ซึ่งพระราชกรณียกิจนานับประการข้างต้นนี้ ยังคงได้รับการสืบสานต่อยอดเพื่อการพัฒนาประเทศไทยจวบจนถึงปัจจุบัน
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงบำเพ็ญเพื่อความผาสุกของปวงชนชาวไทย พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “พระปิยมหาราช” อันหมายถึง “พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของประชาชน” รัฐบาลจึงกำหนดให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันปิยมหาราช” (Chulalongkorn Day) เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์
สำหรับพิธีวางพวงมาลาในวันนี้ มีคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วยนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เข้าร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียง
นำชาวราชสีห์วางพวงมาลา น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม 2568
เวลา 09.00 น. ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ นายอนุทิน นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ กระทรวงมหาดไทย วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วยนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย รวมถึงสมาชิกราชสกุลแห่งจุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ และประชาชน ทุกภาคส่วน เข้าร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียง ร่วมในการนี้ด้วย
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดจากดำริร่วมกันของพุทธศาสนิกชนในวาระครบ 100 ปีแห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 23 ต.ค. 2553 จึงบริจาคเงินบำเพ็ญกุศลในการจัดสร้างพระบรมราชานุสรณ์เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมื่อครั้งทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ จึงถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อทรงทราบ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างได้ โดยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2557 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเททองหล่อพระบรมรูป และต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2558 ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มีขนาดองค์พระบรมรูปเท่าครึ่งของพระองค์จริง ในพระราชอิริยาบถประทับบนพระราชยาน ทรงเครื่องต้นอย่างขัตติยราชตามหลักฐานปรากฏในพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งฉายในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินมาบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม แต่การสร้างพระบรมรูปนี้มิได้ทรงพระชฎาตามราชประเพณีที่เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่เขตพระอาราม จะทรงเปลื้องศิราภรณ์ที่ทรงมาออก ณ พลับพลาเปลื้องเครื่อง ก่อนเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่เขตพุทธาวาส โดยองค์พระบรมรูปประดิษฐานบนแท่นหินอ่อนสีขาวจากเมืองคารารา ประเทศอิตาลี เหนือฉากหลังพระบรมรูป แกะสลักหินอ่อนเป็นรูปตราแผ่นดินลักษณะเดียวกับที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปั้นไว้เหนือกรอบประตูพระอุโบสถวัดราชบพิธ ทั้งนี้ องค์พระบรมรูป ออกแบบโดย พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประยุกต์ศิลป์) สาขาย่อยสถาปัตยกรรม ประจำปี พ.ศ. 2539 และคณะช่างจากกรมศิลปากร และสำหรับการแกะสลักหินอ่อนเป็นฝีมือของนที เกวลกุล ประติมากรชาวไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามประจำรัชกาล เมื่อปี พ.ศ. 2412 โดยเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร และเป็นพระอารามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม บริเวณกำแพงวัดด้านทิศตะวันตก ริมคลองคูเมืองเดิม นอกเขตกำแพงมหาสีมาธรรมจักรของวัด ด้วยทรงมีพระราชประสงค์จะให้ผู้ที่มีความรักใคร่ห่วงใยอาทรอย่างใกล้ชิด อันได้แก่ พระมเหสี เจ้าจอมมารดา พระราชโอรส พระราชธิดา ได้อยู่รวมกันหลังจากที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ในสวนต้นลั่นทมและพุ่มพรรณไม้ต่าง ๆ มีอนุสาวรีย์ 34 องค์ โดยมีองค์สำคัญ 4 องค์ ได้แก่ 1. สุนันทานุสาวรีย์ พระราชทานแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี 2. รังษีวัฒนา พระราชทานแก่สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี หรือ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 3. เสาวภาประดิษฐาน พระราชทานแก่สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) 4. สุขุมาลนฤมิตร์ พระราชทานแก่พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี (สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี) สุสานหลวงแห่งนี้จึงเป็น “สุสานหลวงแห่งจุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์”
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- ไฮโดรเจน อีโคโนมี: เศรษฐกิจแสนล้านฐานพลังงานแห่งอนาคตของไทย ในมุมมองของ "มิสเตอร์เอทานอล-อลงกรณ์" 23 ต.ค. 2568
- "สส.ท็อป-สส.ยอร์ช" ลงพื้นที่น้ำท่วมสุพรรณบุรี มอบถุงยังชีพ-ให้กำลังใจ-ขอบคุณที่เป็นพื้นที่รับน้ำ 23 ต.ค. 2568
- "สุวิทย์" เปิดแนวคิดพลิกโฉมการเมืองไทย! จากการเมืองแห่งอำนาจ สู่การเมืองแห่งการฟัง 23 ต.ค. 2568
- "ธีระชัย-วีระ" มองประชุมเจบีซี ไทยเสียท่าเรียบร้อยโรงเรียนเขมรไปแล้ว 23 ต.ค. 2568
- กสร. เร่งดูแล 606 ลูกจ้าง บริษัทสิ่งทอนครปฐมถูกเลิกจ้าง ย้ำได้รับสิทธิครบตามกฎหมาย 23 ต.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
โฆษกรัฐบาลยันไทยไม่มีปล่อยตัว 18 เชลยศึกเขมร หากกัมพูชาไม่ทำตามข้อตกลงปราบสแกมเมอร์และข้อตกลงที่เหลือ 21:21 น.
- "ดร.มหานิยม" รับพรจาก "เจ้าคุณสุธรรม สุธัมโม" ขอให้ส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนาต่อไปและชนะเลือกตั้งสส. 19:47 น.
- "อภิสิทธิ์" คืนจอการเมือง ย้ำภารกิจฟื้นอุดมการณ์ "ซื่อสัตย์สุจริต" อัดประชานิยมแบกหนี้ชาติ เปรียบ สส.ย้ายพรรคเหมือนกองหน้าค่าตัวแพงแต่ยิงไม่ได้ 19:13 น.
- "มงคลกิตติ์" ยินดี "อภิสิทธิ์" คัมแบล็คหัวหน้าปชป. เตรียมหารือ "เฉลิมชัย" วางเส้นทางการเมืองตัวเอง 18:15 น.
- "ดร.มหานิยม-คุณน้ำผึ้ง-ประธานดอกบัวคู่" ร่วมทอดกฐินวัดป่าโคกกลางเต่างอย 17:42 น.