วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 10:06 น.

อสังหา

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯชูกลยุทธ์ ONE PLATFORM ตั้งเป้าสู่ท้อปทรีในปี 2566

วันอังคาร ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 13.45 น.

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯชูกลยุทธ์

ONE PLATFORM ตั้งเป้าสู่ท้อปทรีในปี 2566

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผนึก 3 กลุ่มธุรกิจศักยภาพสูงเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน จะสร้างความแข็งแกร่งและส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ในบทบาทของผู้นำการขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ด้วยพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรที่สุดในประวัติการณ์นี้ ทำให้บริษัทฯสามารถขยายขีดความสามารถในการส่งมอบสินค้าและบริการ พร้อมข้อเสนอทางการตลาดที่โดดเด่นและแตกต่างจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นในประเทศ ด้วยแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) เราจะนำความเข้าใจลูกค้าและความเชี่ยวชาญในธุรกิจและตลาดอสังหาฯไทย ผสานเข้ากับความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

 

หัวใจสำคัญของการก้าวกระโดดสู่ความสำเร็จ คือ กลยุทธ์ One Platform ที่ทำให้บริษัทฯสามารถให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างครอบคลุมตรงโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า โดยการรวมกันบนแพลตฟอร์มเดียวจะเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่บริษัทฯ เพราะจะมีรายได้จากหลายช่องทาง และรายได้ประจำ (Recurring Income) เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทฯสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยจะดำเนินตามแผน ONE-TO-THREEซึ่งหมายถึง “ONE platform TOwards being a trusted brand and the top THREE in all asset classes” หรือ การรวมธุรกิจเป็นหนึ่งเดียวด้วยแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับ Top 3 ของทุกกลุ่มธุรกิจ ในปี 2566 

กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม” ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในแนวราบ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ โดยตั้งเป้าในการขยายไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบครันและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้อยู่อาศัย ปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม นับเป็นผู้นำอันดับ Top 5 ของประเทศสำหรับกลุ่มธุรกิจเพื่อที่อยู่อาศัย มีโครงการที่พักอาศัยคุณภาพสูงรวม 59 โครงการในหลายทำเล ครอบคลุมทุกระดับราคา ภายใต้แบรนด์ ‘โกลเด้น’ ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เช่น โกลเด้นทาวน์, โกลเด้นซิตี้, โกลเด้น นีโอ,  โกลเด้น วิลเลจ, โกลเด้น อเวนิว, โกลเด้น เพรสทีจ และ เดอะ แกรนด์ ธุรกิจกลุ่ม‘โฮม’ มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 70,000 ล้านบาท และมีรายได้ 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม - กันยายน) รวม 11,100 ล้านบาท 

 

กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล” ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมแบบครบวงจร  มีสถานะเป็น ‘ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมยุคใหม่’  ที่มุ่งเน้นการส่งมอบโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งโรงงานและคลังสินค้าของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล มีทั้งแบบพร้อมให้เช่า (Ready-Built) และแบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) บนทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์กว่า 50 ทำเล ทั้งในนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรม เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม และพื้นที่อื่นๆ ที่มีศักยภาพในประเทศไทย  โดยปัจจุบันมีพื้นที่โรงงานรวม 1.2 ล้านตารางเมตร พื้นที่คลังสินค้ารวม 1.8 ล้านตารางเมตร คิดเป็นพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการรวม 3 ล้านตารางเมตร และมีรายได้ 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม - กันยายน) รวม 1,700 ล้านบาท 

นอกจากนี้ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREITซึ่งเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การจัดการ มากกว่า 42,000 ล้านบาท โดยมีประเภทของทรัพย์สินคือโรงงานและคลังสินค้ารวม 620 ยูนิต ปัจจุบัน FTREIT  ยังคงแสดงความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิตเรทติ้งที่ระดับ A/Stable ซึ่งถือว่าเป็นอันดับความน่าเชื่อถือที่สูงสุดสำหรับกองทรัสต์ในประเทศไทย

กลุ่มธุรกิจ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล” อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชยกรรมชั้นนำประกอบด้วย อาคารสำนักงานให้เช่า รีเทล โรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ รวมถึงโครงการมิกซ์ยูส ที่ทั้งหมดล้วนตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ โครงการที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ อาคาร โครงการสามย่านมิตรทาวน์, อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์,อาคารสาทรสแควร์, อาคารปาร์คเวนเชอร์, อาคารโกลเด้นแลนด์, โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ และ ดิ แอสคอท สาทร แบงคอก ปัจจุบันกลุ่ม ‘คอมเมอร์เชียล’ มีอาคารสำนักงาน และโครงการมิกซ์ยูสรวม 5 แห่ง คิดเป็นพื้นที่รวม 240,000 ตารางเมตร และมีห้องในโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ จำนวน 1,100 ห้อง และมีรายได้ 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม - กันยายน) รวม 1,200 ล้านบาท 

“การรวมกันเป็น One Platform นับเป็นก้าวแรกของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ในฐานะผู้นำบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทย ที่ผนึก 3 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ศักยภาพสูง จึงมั่นใจว่าแต่ละกลุ่มธุรกิจจะส่งเสริมเกื้อกูลกันและจะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯได้เป็นอย่างดี ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้พิสูจน์ความสามารถด้านการบริหารจัดการ ดังจะสะท้อนได้จากความสามารถในการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากผลกระทบของโควิด-19 ตลอดจนการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ในภาพรวมของธุรกิจปี 2564 บริษัทฯยังคงตั้งเป้าที่จะรักษาระดับรายได้ไว้ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ โดยจะเน้นการสร้างความแข็งแกร่งภายในขององค์กร ควบคู่ไปกับการควบคุมค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้” นายธนพล กล่าวสรุป