วันอังคาร ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2564, 16.02 น.
“แอสเซทไวส์” โชว์ผลงานปี’63 รายได้ 4,205 ล้านบาท
กวาดกำไรสุทธิ 871 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 20.6%
.JPG)
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับปี 2563 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่อสังหาริมทรัพย์เผชิญความท้าทายอย่างมาก แต่สำหรับแอสเซทไวส์นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการพัฒนาและเติบโต โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทได้พัฒนาโครงการไปแล้วถึง 33 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นกว่า 30,400 ล้านบาท
ในปี 2563 เป็นปีที่แอสเซทไวส์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวโครงการ 3 โครงการ คือ โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng), โมดิซ ลอนช์ (Modiz Launch) และบ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด พัฒนาการ (Baan Puripuri Courtyard – Pattanakarn) รวมมูลค่าโครงการ 3,637 ล้านบาท และสามารถทำยอดขายจากโครงการใหม่ที่เปิดในปีนี้ได้ถึง 2,407 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมี backlog คิดเป็นมูลค่า 7,848 ล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 – 2566 ในส่วนของโครงการพร้อมอยู่ (Ready-to-move Projects) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 63 บริษัทมีห้องของโครงการพร้อมอยู่คงเหลือในปีคิดเป็นมูลค่า 4,094 ล้านบาท และบริษัทจะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 คิดเป็นมูลค่า 6,694 ล้านบาท
โดยโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 คือ บ้านภูริปุรี ทาวน์โฮม ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Townhome Ladprao 41), แอทโมซ แจ้งวัฒนะ (Atmoz Chaengwattana), แอทโมซ รัชดา - ห้วยขวาง (Atmoz Ratchada - Huaikwang) และเคฟทาวน์ สเปซ (Kave Town Space) ซึ่งทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ดี จัดสรร สิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างหลากหลาย และมีรูปแบบห้องที่ตรงกับความต้องการ เมื่อรวมกับโครงการคุณภาพที่สร้างเสร็จก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ถึง 4,205 ล้านบาท เติบโตจากปี 2562 ถึง 60% และด้วยการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 44.2% ทำผลกำไรสุทธิได้ถึง 871 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 20.6% ซึ่งจัดเป็นอัตราที่สูงน่าพอใจ
ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงมุ่งพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์และรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการดำเนินการตามกลยุทธ์สำคัญ ภายใต้แนวคิด “The NEXT Paradigm” ที่ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยแนวคิดสำคัญของแอสเซทไวส์ ในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนใน Next Paradigm ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลักสำคัญ ได้แก่
Facilities for New Lifestyle : ในโลกยุคใหม่ “บ้าน” มีความสำคัญยิ่งขึ้น คนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น ทั้งทำงาน ทำกิจกรรม และพักผ่อน แอสเซทไวส์ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางในโครงการมาโดยตลอด และจะยังคงมุ่งเน้นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางให้มีบรรยากาศสวยงาม มีความหลากหลาย รองรับทุกกิจกรรมการพักผ่อนเพื่อความรื่นรมย์และผ่อนคลาย และมีพื้นที่รองรับการทำงานและการเรียนที่บ้าน ทั้งในรูปแบบ Co-working space, Library, Meeting Room, Living Lounge เพื่อรองรับการทำงานแบบ Work From Home ให้ดีที่สุด ให้การใช้เวลาในที่พักของลูกบ้านเป็นเวลาที่ดีที่สุด
Health Concern : เนื่องด้วยปัจจุบัน สุขภาพกลายเป็นเรื่องที่สําคัญมาก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ แอสเซทไวส์ ที่ให้ความสําคัญกับสุขภาพลูกบ้าน ภายใต้แนวคิด “Health Solution” แอสเซทไวส์จึงต่อยอดการดูแลสุขภาพของลูกบ้าน ด้วยไฮไลต์พิเศษในพื้นที่ส่วนกลาง นั่นคือการสร้างสรรค์ “Health Station” ขึ้น ทั้งนี้ใน Health Station ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ในการตรวจสุขภาพเบื้องต้นไว้ให้แก่ลูกบ้าน ได้แก่ Tytocare ซึ่งเป็นอุปกรณ์ออนไลน์ที่แพทย์ใช้ตรวจทราบอาการของผู้ป่วยผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างเรียลไทม์ รวมถึง เครื่อง BMI (เครื่องตรวจวัดค่าดัชนีมวลกาย), เครื่อง AED (เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ) และเครื่องวัดความดันชนิดสอดแขน Health Station นับเป็น Facility ใหม่ในวงการ อสังหาริมทรัพย์ และเริ่มนําร่องในโครงการแอทโมซ แจ้งวัฒนะ (Atmoz Chaengwattana), แอทโมซ รัชดา - ห้วยขวาง (Atmoz Ratchada - Huaikwang), เคฟทาวน์ สเปซ (Kave Town Space) และเคฟทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift) นอกจากนี้บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดทุกพื้นที่อย่างเข้มงวด
“สำหรับในปี 2564 บริษัทจะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,694 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการ เคฟทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift), บ้านภูริปุรี คอร์ทยาร์ด พัฒนาการ (Baan Puripuri Courtyard – Pattanakarn), เคฟทียู (Kave TU), บ้านภูริปุรี โฮมออฟฟิศ ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Homeoffice Ladprao 41) และโมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) และบริษัทฯ วางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ โดยแบ่งเป็นโครงการแนวสูง 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ เคฟ ศาลายา (Kave Salaya), โมดิซ ไรห์ม คลาวด์ (Modiz Rhyme Cloud), แอทโมซ บางนา (Atmoz Bangna), เคฟ เอวา (Kave Ava), โมดิซ ศรีราชา (Modiz Sriracha)และโครงการแนวราบ 1 โครงการคือ บ้านภูริปุรี โฮมออฟฟิศ ลาดพร้าว 41 (Baan Puripuri Homeoffice Ladprao 41 รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 10,850 ล้านบาท”