นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล เผยว่า “ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเศรษฐกิจของประเทศ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้รับผลกระทบโดยตรง ธุรกิจจำนวนไม่น้อยต้องปิดตัวลง ในทางกลับกัน วิกฤติก็ทำให้เกิดโอกาส ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจนทำให้ยอดขายก้าวขึ้นมาคู่คี่กับเบอร์ 1 และยังคงเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ เนื่องด้วยการวางแผนรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าว มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อตอบรับและตอบโจทย์กับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ทันกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ถึงแม้จะมีการล็อกดาวน์ ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แต่ความต้องการด้านซ่อมแซมและตกแต่งที่อยู่อาศัยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ยังคงมีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเรายังคงมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 นี้ เราทุ่มงบกว่า 2,000 ล้านบาท ในการขยายสาขาใหม่ ทั้งในพื้นที่ปริมณฑล และต่างจังหวัด ได้แก่ สาขาสุขสวัสดิ์, สาขาบ่อวิน, สาขาอยุธยา, สาขาสงขลา และ สาขาศรีสมาน รวม 5 สาขา

 

 

โดยแต่ละสาขาขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 15,000 – 20,000 ตารางเมตร มีสินค้าจำหน่ายที่ครบครัน ครอบคลุมทั้งวัสดุก่อสร้าง และสินค้าเพื่อบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เครื่องมือช่าง ประปา สี กระเบื้อง อุปกรณ์เพื่อการเกษตร สุขภัณฑ์ห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครัว อุปกรณ์ครัว และของตกแต่งบ้าน หลากหลายแบรนด์ชั้นนำคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซ่อมแซม ตกแต่ง และการก่อสร้าง ด้วยสินค้าที่ครบครันทุกความต้องการ พร้อมด้วยบริการออกแบบจากทีมวีฟิกซ์ ทีมช่างมืออาชีพ ที่จะช่วยให้การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเป็นเรื่องง่าย และเพื่อการบริการที่ทั่วถึง ไทวัสดุ ยังมีบริการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ www.thaiwatsadu.com ที่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีบริการ Chat & Shop ผ่านช่องทาง Facebook : thaiwatsadu.thai , Line @Thaiwatsadu รวมไปถึงการให้บริการผ่าน Call Center 1308 เพื่อเป็นช่องทางในการสอบถามข้อมูล มีการรับประกันสินค้าคืนได้ใน 30 วัน พบสินค้าราคาแพงกว่ายินดีคืนส่วนต่างให้ 120% (เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัท) พร้อมบริการไดรฟ์ทรู ยกของขึ้นรถให้ และบริการส่งของให้ถึงที่ เพื่อตอกย้ำแนวคิด ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี ที่ไทวัสดุ สะดวกทุกที่ ทุกเวลา”

 

               

และสำหรับไทวัสดุ สาขาศรีสมาน สาขาล่าสุด ลำดับที่ 60 และถือเป็นสาขาสุดท้ายในปีนี้ ตั้งอยู่บนถนนศรีสมาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เรามองเห็นว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่มีการพัฒนาเมืองในเชิงรุกที่เด่นชัด โดยฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การขยายตัวของเมือง ออกสู่หัวเมืองหลัก การขยายส่วนเชื่อมต่อรถไฟฟ้า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัจจัยที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยอื่นๆ ตามมา ทั้งห้างสรรพสินค้า และแหล่งทำงาน โดยบริเวณ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% จากรถไฟฟ้าสายสีม่วง และบริเวณ ต.บางกรวย อ.บางกรวย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ซึ่งในพื้นที่รอยต่อระหว่างกรุงเทพมหานคร – นนทบุรี แนวถนนศรีสมานนี้เป็นทำเลทองที่น่าจับตามอง

 

               

เนื่องด้วยระบบขนส่งคมนาคม แนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช ผนวกกับทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ลงทางด่วนศรีสมาน เพียง 2 กม. ก็จะพบไทวัสดุ ศรีสมาน อย่างเด่นชัด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสินค้าเพื่อบ้านให้กับ 120,000 ครัวเรือน ในละแวกใกล้เคียง ดังจะเห็นได้จากการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยอย่างเต็มขั้น ทั้งในรูปแบบของ คอนโดมิเนียมแนวราบ แนวสูง ทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยวขนาดต่างๆ ส่งผลต่อความต้องการสินค้าเรื่องบ้านในพื้นที่ค่อนข้างสูง

 

               

ไทวัสดุ ศรีสมานแห่งนี้ มีขนาดพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร มาพร้อมกับกับความพิเศษในรูปแบบใหม่ Hybrid Format สาขาแรก เป็นการรวมตัวระหว่าง ไทวัสดุ และ BNB Home (บีเอ็นบี โฮม) ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 เป็นศูนย์รวมสินค้าตกแต่งเพื่อบ้าน ที่จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ยอดเยี่ยม ด้วยสินค้าคุณภาพที่คัดสรรมา ในราคาสุดคุ้ม มารวมกันไว้ในที่เดียว ตอบโจทย์ความต้องการสินค้าเพื่อบ้าน และตกแต่งบ้านสำหรับคนเมือง ที่ต้องการสินค้าที่มี Design และ Innovation สร้างไลฟ์สไตล์เพื่อให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น กับไลน์สินค้ากว่า 40,000 รายการ โดนใจคนรักบ้าน นักช้อป และนายช่างให้ได้เลือกเฟ้นสินค้าได้อย่างจุใจ ครบ จบ ในที่เดียว เราคาดหมายว่าภายใต้แนวคิด “ไทยช่วยไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ” ของไทวัสดุ จะกระตุ้นกำลังซื้อสร้างบรรยากาศการจับจ่ายให้กลับมาคึกคัก และสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้า จาก ”บ้านแอนด์บียอนด์” สู่ “BNB Home” (บีเอ็นบี โฮม) การรีแบรนด์ครั้งสำคัญอีกครั้งของ ซีอาร์ซี ไทวัสดุ

 

               

นายสุทธิสาร เผยเพิ่มเติมว่า “การปรับภาพลักษณ์จาก บ้านแอนด์บียอนด์ เป็น บีเอ็นบี โฮม จะสร้างการจดจำชื่อของแบรนด์ได้ง่ายมากขึ้น เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกระดับ มาพร้อมกับสไตล์ต่างๆ ที่มีความหลากหลาย และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ทั้งสินค้าตกแต่ง ซ่อมแซม หรือปรับปรุงบ้าน และบริการเพื่อบ้านที่ครบวงจร ในราคาที่คุ้มค่า เข้าถึงและจับต้องได้ เห็นได้ชัดเจนว่าปัจจัยด้านพฤติกรรมการซื้อของตกแต่ง ซ่อมแซมบ้านมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายเฉพาะตัวมากขึ้น คนรุ่นใหม่มีกำลังซื้อ และมีความต้องการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ต้องการความรวดเร็ว ตอบสนองฉับไวตลอด 24 ชั่วโมง โซเชียลมีเดียมีอิทธิพล และเป็นช่องทางหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้า โดยจะมีการปรับเปลี่ยนชื่อหน้าร้านใหม่ใน 7 สาขา ได้แก่ สาขารัตนาธิเบศร์, สาขาราชพฤกษ์, สาขาบางใหญ่, สาขาพัทยาใต้ ,สาขามิตรภาพ, สาขาเชียงใหม่ และสาขาภูเก็ต ทั้งนี้ ไทวัสดุ (รวมรูปแบบ Hybrid Format ที่มีบีเอ็นบี โฮม) จะขยายสาขาต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยาย 4-5 สาขาต่อปี

 

               

นายสุทธิสาร กล่าวทิ้งท้าย ถึงการเติบโต และแผนการดำเนินธุรกิจ ของซีอาร์ซี ไทวัสดุ ว่า “ตั้งแต่ต้นปี จนถึงไตรมาส 3 ซีอาร์ซี ไทวัสดุ มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้คาดว่าเมื่อจบสิ้นปี ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จะสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย”